ย้ายสวนเข้าไปไว้ในอินดอร์@ไปรษณีย์กลาง
ตัวสถานที่แต่งงาน จริงๆ เรามองไว้หลายที่เลยค่ะ แต่พอดีคุณแม่ของเจ้าบ่าวกับเรา ไปเห็นภาพงานแต่งงานของคุณปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ช่วงก่อนหน้านั้นพอดี ซึ่งเขาก็จัดที่ ไปรษณีย์กลาง (Grand Postal Building) เหมือนกัน ก็เลยเห็นแล้วว่า ถ้าจัดให้ดีๆ ก็ดูสวย ดูอลังการได้แน่นอน ยิ่งพอธีมเราเป็นรัสติกวินเทจด้วย ก็ยิ่งเข้ากับตัวโคมไฟที่เป็นไฮไลท์อีกอย่างของสถานที่ไปกันใหญ่ ได้ลุคออกมาคลาสิกลงตัว
แรกสุด ใจจริงเราอยากให้องค์ประกอบมันออกมาดูดิบๆ แบบรัสติกแท้ โดยจะเน้นไปใช้เป็นไม้ทั้งหมด แต่ทีมออแกไนซ์เขาก็แนะมาว่า ตัวสถานที่ที่เราใช้ ถ้าเป็นไม้ทั้งหมด มันอาจจะไม่เวิร์ค เพราะดูแข็งไปหน่อยค่ะ ต้องเบลนดอกไม้เข้าไปเพิ่ม แล้วเสริมผ้าลูกไม้เข้าไปอีกนิด จะได้ได้ภาพรวมที่พอดีๆ
รัสติกได้ แต่ต้องแตกต่างด้วย
คอนเซ็ปต์หลักของงาน หลินอยากให้มันเป็นริสติกที่ไม่เหมือนกับงานแต่งอื่นๆ ค่ะ สำหรับแขกที่มาร่วมงาน อย่างแรกที่เขาจะเห็นเลยเมื่อมาถึง ก็คือรถเต่าสไตล์วินเทจ ซึ่งอันนี้เราใช้เป็นตัวเปิดฉาก พอเดินขึ้นไปก็จะเจอประตูที่จับโยงด้วยม่านขาว เถาวัลย์และผ้าทรงสามเหลี่ยม ตัวโลโก้ก็ได้ทีม Istudio มาดีไซน์ให้ ทุกอย่างเลยลิ้งค์เข้ากันไปหมด
นอกจากนี้ เรายังบอกให้ทางทีมเปิดแค่เฉพาะประตูกลางประตูเดียว เพื่อให้แขกได้เห็นภาพความประทับใจแรกเป็นโต๊ะเค้กด้วยค่ะ ส่วนนี้บอกเลยว่า แม้แต่ตัวหลินเองก็ประทับใจมาก ทางทีมออแกไนซ์ทำออกมาได้สวยมากๆ มีเลเยอร์ คาดไม่ถึงสุดๆ เป็นโต๊ะเค้กรัสติกที่ไม่เหมือนกับที่อื่นเลยค่ะ และยิ่งถ้าเข้าไปสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามันรายล้อมไปด้วยภาพ Pre-wedding ที่เราได้ไปถ่ายไว้ด้วย เรียกว่าลงกันทุกดีเทล เก็บทุกเม็ดไม่มีตกหล่นค่ะ
แบ็คดรอปและพร็อพที่แปลกใหม่
เราอยากให้ตัวแบ็คดรอปดูมีมิติมากกว่าเป็นแค่ฉากแบนๆ ค่ะ ฉากหลังเลยเป็นอิฐสีขาว แล้วด้านบนมีโครงที่แต่งห้อยด้วยริบบิ้น และสะดึงที่ด้านในเป็นผ้าลูกไม้ ส่วนพื้นก็ปูด้วยพรมสีเขียวค่ะ
มุมแกลอรี่เอง ทางทีมก็ช่วยประยุกต์ไอเดียเราลงไปให้ โดยมีการตัดช่องเป็นคล้ายๆ กึ่งหน้าต่างไว้บนแผ่นไม้ค่ะ ทำให้ตัวงานมีลูกเล่นขึ้นอีก แขกก็สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ ส่วนที่ว่างที่เหลือก็ทำเป็นชั้นวางของ วางพร็อพ และภาพอื่นๆ
ส่วนองค์ประกอบเล็กๆ อย่างพวกกรวยโปรยดอกไม้ เราก็ไม่อยากให้ใช้เป็นกระดาษธรรมดาเปล่าๆ เลยขอให้เป็นลายดีกว่า จนสุดท้ายก็ได้ลายพริ้นท์ออกมาเป็นลายโน้ตดนตรี ด้านในเป็นกลีบกุหลาบสีขาว
อีกเรื่องที่เราใส่ใจเหมือนกันคือดนตรี บ่าวสาวเราจะชอบเพลงแนว Easy listening, Jazz และก็ Bossa เราเลยรีเควสไปว่าอยากได้ Double Bass ด้วย ฟีลมันจะได้ถึงขึ้นไปอีกระดับ แล้วเราก็ได้น้องคนนึงที่เราชอบเสียงมากๆ มาช่วยร้องให้อีก เลยออกมาเป็นภาพรวมงานในแบบที่เราชอบจริงๆ ค่ะ
ซีนงานที่เราประทับใจกันมาก คือตอนที่เพื่อนของคุณเจ้าบ่าวมีเซอร์ไพรส์ให้ เป็นคุณโย่ง อาร์มแชร์ค่ะ เขามาร้องเพลงให้ในงานหนึ่งเพลงด้วย เป็นบุคคลที่คุณเจ้าบ่าวปลื้มมากๆ เรียกว่าเป็นงานที่แฮปปี้เลยล่ะ
แนะนำบ่าวสาว
จัดงานทั้งที ต้องมีเลขาบ่าวสาวไว้ด้วย : เขาจะได้เป็นตัวแทน คอยประสานงาน คอยตัดสินใจแทนเราไปเลยค่ะ เพราะวันนั้นยังไงเราก็ไม่มีเวลาแน่ๆ และที่สำคัญคือ คนๆ นั้นต้องรู้ทุกอย่างในงาน ใครสงสัย ถามหาหรือตกหล่นอะไร ติดต่อคนนี้ได้ตลอด สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ เป็นอีกหนึ่งงานที่สำคัญและจำเป็นมาก พอๆ กับคนรันคิวเลยค่ะ
จะให้ของชำร่วย ก็ต้องคิดถึงเวลาแขกใช้งานด้วย : อย่างของหลินเป็น Tag ติดกระเป๋าค่ะ เพราะเราเป็นคนชอบเดินทาง เลยคิดว่ายังไงแขกก็คงได้ใช้แน่ๆ แต่ที่สำคัญเลยคือ เราทำซองขึ้นมา แล้วแปะสติกเกอร์ชื่อเราลงไป พอแขกจะเอาไปใช้จริงๆ จะได้เหลือแต่ตัว Tag เปล่าๆ เลย ดีกว่าเราสลักชื่อลงไปตรงๆ นึกถึงใจเขาใจเรา เพราะถ้าเป็นเราบ้าง เราก็คงไม่กล้าใช้เหมือนกัน (หัวเราะ)