งานเช้าเรียบง่าย มู้ดแอนด์โทนสบาย ใช้ฤกษ์สะดวก
งานของโอ๋กับฟิวส์ เราจัดแยกวันกันค่ะ เริ่มจากพิธีหมั้นแบบไทยที่ Agalico ซึ่งเราอยากให้เป็นแบบเรียบง่าย เน้นจัดกันในครอบครัว ส่วนใหญ่จะเชิญญาติกับเพื่อนสนิทมา
ตัวสถานที่โอ๋ก็ชอบมาก เพราะเขาตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัก ด้านล่างก็น่าจะจุแขกได้ดี บรรยากาศเป็นแบบสวนๆ สบายๆ
ที่บ้านเราสองฝ่ายจริงๆ แล้ว เคร่งเรื่องฤกษ์ระดับนึง แต่ด้วยความที่เราไปดูพระมา ท่านว่าลัคนาเราไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่ดี แต่เหมือนทุกอย่างอยู่ที่การกระทำของเราเอง ต้องกำหนดขึ้นเองหมด ดังนั้นฤกษ์ที่ใช้ก็เลยตั้งกันเองค่ะ
สุดท้ายเมื่อเป็นฤกษ์สะดวก โอ๋เลยเลือกวันอาทิตย์ รถจะได้ไม่ติด เพราะโลเคชั่นงานของเราอยู่สุขุมวิท เริ่มงานไม่เช้ามาก ช่วงตักบาตรก็มีแค่คุณแม่ทั้งสองฝ่ายกับญาติๆ ระหว่างนั้นให้เพื่อนเจ้าสาวแต่งหน้ารอได้เลยชิลล์ๆ ค่ะ
หาวิธีชาร์จพลัง เตรียมงานได้ไม่ต้องเครียด
พิธีการของเราครบถ้วนตามธรรมเนียม มีนายพิธีคอยอธิบายความหมาย ส่วนของรับไหว้โอ๋ใช้เป็นปิ่นโต โดยให้พี่ที่รู้จักกันซึ่งเป็นดีไซเนอร์มาช่วยเพ้นท์โลโก้บ่าวสาวให้ หลังจากนั้นโอ๋ก็ห่อเองทั้งหมด 30 ชิ้นค่ะ
ช่วงเตรียมงานคนส่วนใหญ่จะเครียดมาก ตอนแรกๆ โอ๋ก็เครียด เพราะเราเป็นสายดีเทล สายละเอียด แต่พอมาลงมือทำของกระจุกกระจิกเอง อย่างของรับไหว้ หรือดอกไม้ติดสูทเพื่อนเจ้าบ่าว โอ๋รู้สึกว่ามันทำให้เราคลายเครียดได้ดีมาก โอ๋ได้ไปเลือกดอกไม้ที่เราชอบ ลองนั่งทำ ฟิตติ้งแปะเสื้อสูท แช่ตู้เย็นดูเก็บได้กี่วัน เอาออกมาข้างนอกวันนึงดูว่ามันเหี่ยวไหม จนสุดท้ายมันเสร็จสมบูรณ์ เหมือนได้มีสมาธิและก็มีความสุขไปกับการเตรียมงานจริงๆ
ไฮไลท์ของงานช่วงนี้อีกอย่างนึงคือตอนรดน้ำสังข์ เพราะเราจัดในโบสถ์ของทางร้านซึ่งทำขึ้นมาสำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง ด้านในก็สวย เป็นห้องเล็กๆ ไม่ร้อน แขกก็สบาย ได้ภาพที่ดีด้วยค่ะ
สวยอย่างมีสไตล์ ได้ชุดที่เป็นตัวเอง
ชุดวันหมั้น โอ๋ใช้จากร้าน Nhoo Matthews Atelier ที่นี่เขาจะเป็นแบบให้โทรนัดวันกันก่อน ตอนเข้าไปโอ๋เลยได้รู้ว่าเขาทำชุดให้น้องกุ๊บกิ๊บด้วย เวลาคุยกันเราก็บอกคาแรกเตอร์ อย่างของโอ๋เป็นคนที่เหมือนจะดูหวาน แต่จริงๆ ไม่ได้หวานขนาดนั้น เรามีความขี้เล่น แอบเซ็กซี่บ้าง เขาก็ช่วยดูแนวทาง แล้วสเก็ตช์ภาพให้ดู แป๊ปเดียวออกมาเป็นภาพสวยๆ ลงตัวที่ชุดแนวหวานๆ น่ารักๆ มีปักเลื่อมให้ได้ลุคฝรั่งค่ะ
ชุดฉลองโอ๋เองก็ใช้จากที่นี่ ซึ่งงานของเราจะมีปั่นจักรยานลงมาจากเขาด้วย เลยอยากได้กระโปรงสั้นประมาณเข่า เดินรับแขกสะดวก แล้วถึงจะไปเปลี่ยนเป็นกระโปรงยาวในภายหลัง เลยดีไซน์ออกมาเป็นแบบแยกชิ้นจะได้สะดวก
ส่วนที่เป็นกระโปรงยาว คุณหนูก็จัดวางได้ดีมาก เพราะโอ๋อยากให้มีดอกไม้ เวลาเดินบนหญ้าจะได้ดูเข้ากัน เหมือนมีดอกไม้หล่นติดกระโปรงเรา (หัวเราะ) ดูวินเทจละมุนๆ แบบที่ชอบเลย
ฉีกกฏงานแต่งด้วยสถานที่จัดงานไม่เหมือนใคร
สถานที่งานฉลองของเราจัดกันที่อุทยานน้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก ซึ่งจริงๆ เรามาเจอที่นี่เพราะขับรถหาโลเคชั่นถ่ายพรีเวดดิ้ง โอ๋เข้าไปในส่วนน้ำตกวังตะไคร้แล้วรู้สึกว่าสวยมาก พูดกับฟิวส์ขำๆ ว่าจัดที่นี่ดีมั้ย จนเวลาผ่านไปแพลนงานแต่งงาน เราก็ไปเกริ่นๆ กับพี่สาวโอ๋ที่ทำงานเป็นเลขาท่านสุขุมพันธุ์ว่าอยากจัดที่นี่ ท่านก็น่ารักมาก บอกเอาสิ จัดได้เลย ลองดูก็ได้ เพราะยังไม่มีใครเคยจัดที่นี่เหมือนกัน
ตอนวันงานจริงมีเรื่องผิดคาดเกิดขึ้นนิดหน่อย อย่างตอนแรกที่เรามาเซอร์เวย์กัน สัก 4 โมงแดดก็เริ่มร่ม แต่วันนั้น 4 โมงแดดยังไม่หุบเลยค่ะ (หัวเราะ) สว่างเลย แต่แขกก็เข้าใจ ไม่เหนื่อยกับการรอ ส่วนนึงอาจเพราะเขามาด้วยความตั้งใจจะยินดีกับเราจริงๆ และบรรยากาศก็ดี ลมเย็น เห็นภูเขาใกล้ๆ เลย
เริ่มต้นแบบเก๋ๆ ซีเควนซ์งานสลับได้ให้เหมาะสม
ลำดับงานของเราจะเริ่มต้นจากการที่โอ๋กับฟิวส์ปั่นจักรยานเข้างานกันก่อน มีเพื่อนๆ โปรยดอกไม้ แล้วเราก็นำเพื่อนมายืนตรงซุ้มทางเข้างาน ถัดจากนั้นก็โยนดอกไม้ เพราะอยากให้ได้ซีนที่โยนขึ้นท้องฟ้า กลัวโยนท้ายงานแล้วเดี๋ยวมืดจะไม่เห็นเอาค่ะ (หัวเราะ)
หลังจากนั้นเราก็เชิญคุณชายสุขุมพันธ์มาตัดริบบิ้นนำเราเข้างาน แล้วเราก็เชิญแขกเข้าไปนั่ง จัดอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ค็อกเทล แบ่งโซนให้แขกนั่งเป็นแถวยาว จัดเป็นแนวสี่เหลี่ยมหันหน้าหากัน
สักพักเราก็จะมีเพลงบรรเลง เริ่มทานข้าว โอ๋กับฟิวส์ก็ไปเปลี่ยนชุด ฟิวส์เป็นสูท ส่วนโอ๋เป็นกระโปรงยาว แล้วก็มีจุดไฟเย็น ดู VTR งานหมั้น แล้วก็มีส่วนที่เราถ่ายกันเองด้วย โดยเราจะไปหาของขวัญที่เซอร์ไพรส์กันทั้งคู่ เขียนการ์ดคนละใบว่าอยากบอกอะไรกัน แล้วถึงเวลาก็ผลัดกันถ่าย โอ๋ถ่ายฟิวส์ ฟิวส์ถ่ายโอ๋ แล้วฟิวส์ก็ให้น้องที่ออฟฟิศตัดต่อ พวกพรีเวดดิ้งเราก็ถ่ายทำกันเอง ให้คนที่รักเรา สนิทกับเรามาทำกัน ดีไซน์กันเองหมดทุกอย่างเลย
อิ่มเอมไปด้วยบรรยากาศแห่งความยินดี
พอฉายจบ ทีนี้ก็จะมีประธานขึ้นมากล่าวค่ะ มีการสัมภาษณ์ ให้เพื่อนพูด ตัดเค้ก แล้วก็เปิดฟลอร์เต้นรำ หลังจากนั้นเราก็ถ่ายรูปกับแขก เป็นการถ่ายรอบเดียวเสร็จแล้วส่งแขกกลับพอดี ซึ่งโอ๋ก็จะชวนกันเต้นก่อนถ่ายรูป ช่วยบิ้วด์ ช่วยเอนเตอร์เทนต์แขกไปในตัวด้วย
งานนี้อาจจะไม่เหมือนแพทเทิร์นปกติ เพราะมันเป็นในรูปแบบของโอ๋ มีทั้งความสนุก ความสุขที่เกิดขึ้นจริงๆ เราแฮปปี้ที่แขกมาเยอะ ทั้งที่งานจัดที่ไกลมาก ไม่ใช่ในกรุงเทพ คิดว่าแขกน่าจะมาประมาณนึง แต่ปรากฏสุดท้ายก็มาเยอะมากๆ เลย ทุกคนไม่เหนื่อยที่จะรอ ได้เห็นบรรยากาศธรรมชาติ ได้ผ่อนคลาย และฟีดแบคกลับมาว่าชอบงานเราจริงๆ ไปแล้วไม่เกร็ง แค่เห็นทุกคนยิ้มมีความสุข เราก็ชื่นใจไปด้วยแล้วค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
บ่าวสาวเราอย่าเครียด : คุณโอ๊ต (OAT Chaiyasith) เขาให้ข้อคิดโอ๋ไว้ดีมากๆ เลยค่ะ เขาบอกให้เราคิดว่าแขกมาเพื่อเรา ยังไงเขาก็รอได้ ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องกดดันมาก ของโอ๋เองเราจับมือกันเลย บอกว่าถึงมันจะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นก่อนงานหรือหน้างานขนาดไหน แต่เราจะปล่อยมันไปค่ะ อะไรจะเกิดต้องเกิด ให้มันรันไป ทำใจสบายๆ ใจเย็นๆ ให้เชื่อว่าทุกคนเข้าใจเรา