รีวิวงานแต่งในเรือนไทย ตรึงใจด้วยพิธีแบบดั้งเดิม @Tewa Boutique Hotel

สถานที่แต่งงานถูกใจ ต้องเรือนไทยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ @Tewa Boutique Hotel
         โจทย์แรกในช่วงเตรียมงานของเราคืออ๊อฟเป็นลูกทหารค่ะ เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องเจอแบบนี้ คือพ่อแม่อยากให้จัดงานที่สโมสรทหารบก (หัวเราะ) แต่ด้วยความที่อ๊อฟชอบอะไรที่มันดูเป็นธรรมชาติ จัดงานไทยก็อยากให้ไทยแท้ ไม่อยู่ในตึก สโมสรเลยอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ จนมาวันนึงที่อ๊อฟได้ไปจัดงานปฏิบัติธรรมให้ลูกค้าที่ Tewa Boutique Hotel (เทวา บูติค โฮเทล) เรือนไทยที่นั่นสวยมาก ทุกอย่างถูกใจไปหมด ร่มรื่น แถมยังเป็นส่วนตัวเพราะรับจัดแค่คู่เดียวในแต่ละวัน เอ็กซ์คลูซีฟจริงๆ เลยตัดสินใจเลือกที่นี่เลย
           การตกแต่งก็ใช้ดอกไม้ไทยๆ อย่างบัวขาว กล้วยไม้ ดอกพุด สีเขียวก็เป็นเขียวจากใบแก้ว มีตัวชูโรงหลักเป็นนกยูงสีทอง เรียกว่าสมใจเลย แต่กว่าจะได้ก็ไฝว้กับพ่ออยู่นาน (หัวเราะ)

แบ่งการเชิญแขกเป็นสองช่วง
         งานนี้ด้วยความที่คนรู้จักของคุณพ่อเยอะ จะเชิญคนนั้นแต่ไม่เชิญคนนี้ก็จะดูไม่ดี แล้วแขกที่มางานเช้าก็จะไม่ได้มางานเย็นเพราะจัดคนละที่กัน ดังนั้นเราเลยเชิญแขกโดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม
         กลุ่มแรกคือคนที่จะมาช่วงเช้า รับไหว้รดน้ำสังข์เสร็จแล้วกลับ กับอีกกลุ่มคือแขกที่มาช่วงเลี้ยงเที่ยง วิธีนี้สะดวกกับแขก คนที่มาเช้าก็ได้ทานอาหารเช้าที่เราจัดเตรียมไว้ให้ คนที่มาสายๆ ก็ทานเป็นอาหารกลางวันไป ทุกคนอิ่มท้อง และทำให้บรรยากาศไม่หนาแน่นเกิน เพราะแขกจะวนๆ ผลัดเปลี่ยนกันมา

         เรื่องการเตรียมการไม่มีอะไรยากเท่าไหร่ค่ะ เพราะที่นี่เขาครบวงจรเสร็จ มีแม่งานให้เราพร้อม มีคนจัดการตกแต่งทุกอย่าง มีขันหมาก เราเป็นบ่าวสาวสวยๆ สบายๆ เตรียมซองอย่างเดียว ไม่ต้องวิ่งหาอุปกรณ์อะไรเลย ที่อ๊อฟเลือกมีแค่วงดนตรีไทยสดเข้าไปเสริมเท่านั้นเอง นอกนั้นทุกอย่างก็ลงตัว

ไทยแท้ๆ แม้แต่การแต่งชุด
         ชุดเช้าเราใช้ของรสนิยม ไม่ได้ตัดขึ้นใหม่ แค่เลือกคอลเลคชั่นที่ชอบแล้วเอามาปรับ ของอ๊อฟเป็นชุดสมัย ร.3 ส่วนของเจ้าบ่าวก็ยุคนั้น แต่ขอเป็นแบบเจ้าพระยาเลยค่ะ แม็ตช์ใส่กับผ้าถุง
         ส่วนชุดเพื่อนเจ้าสาว ให้เตรียมเสื้อสีเทามาเอง ผ้าถุงทางสถานที่มีเตรียมไว้ให้ เพื่อนเจ้าบ่าวจะพีคหน่อยเพราะเป็นสายอาร์ต ทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านเขา แต่งแฟนซีมา เป็นพ่อค้าจากประเทศต่างๆ ในยุค ร.3 ค่ะ ผู้ใหญ่มาเห็นก็ชอบใจใหญ่ สดชื่นดี ดูสนุก ไม่เหมือนกับงานอื่นๆ เป็นสีสันของงานค่ะ

พิธีการตรึงใจ ในโมเม้นท์อบอุ่นเป็นกันเอง
         ช่วงพิธีการ ตอนกั้นประตู เจ้าบ่าวของอ๊อฟโดนน่วมทุกอย่างเลยค่ะ (หัวเราะ) ตะโกนเรียก วิดพื้น มาหมด ตอนแรกทางเรือนไทยแนะว่ากั้นแค่ 3 ประตูก็พอ จะได้ไม่เสียฤกษ์ แต่เพื่อนเราเยอะมาก เลยปรับเลื่อนให้เร็วขึ้นหน่อย เป็น 6.45 น. จะได้เข้าสู่พิธีการได้ทันเวลาค่ะ
         งานของเราจะมีไหว้ผู้ใหญ่ก่อน พอทำพิธีด้านในเสร็จ เจ้าบ่าวก็จะออกมารับเจ้าสาว มีแม่งานแนะนำตัวให้เรา ต่อด้วยไหว้พ่อแม่และประธาน แล้วเขาก็จะอวยพร ถัดจากนั้นเป็นสวมแหวน รับไหว้ ซึ่งคนเยอะมาก ของรับไหว้เราเป็นผ้าบาติกกับผ้าปาเต๊ะ เสร็จแล้วก็รดน้ำสังข์ โดยเราเลือกรดแบบสมัยโบราณ ไม่ได้นั่งเก้าอี้ แต่นั่งตั่งแทน มีหมอนอิงอิงแขน และใช้ดอกบัวเป็นที่รองรดน้ำค่ะ

ความหมายดีๆ ที่ผู้ใหญ่ส่งต่อ
         ซีนที่เห็นว่าผู้ใหญ่เอามือมาจับ เหมือนเขาถือเคล็ดความหมายว่าเรากำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วค่ะ ก็ให้ปรองดองกัน สามัคคีชุมนุมกันไว้ (หัวเราะ) แล้วเราก็มอบของให้ เป็นน้ำตาลที่มีความหมายที่ดีด้วย
         สำหรับงานฉลองเราเตรียมไว้เป็นน้ำมันมะพร้าวกับครีมบำรุงผิวน้ำมันมะพร้าวค่ะ ใส่ขวดสีน้ำเงิน เป็นโปรดักส์ของอ๊อฟเอง (Coco iFill, Made in Paradise) ช่วยบำรุงผิวได้ดีมากๆ จะหมักผม นวดหน้านวดตัว บำรุงเล็บก็ได้ มีคอลลาเจนผสมในน้ำมันอยู่แล้วด้วย ใช้ได้กับทุกสภาพผิว เหมาะกับแขกทุกช่วงวัยค่ะ

         ตบท้ายด้วยช่วงทานอาหารกลางวันที่อ๊อฟใส่ใจเป็นพิเศษ เรียกว่าบอกทางสถานที่เลยให้จัดมาเต็มที่ ไม่มีขาด อยากให้แขกประทับใจที่สุด บวกกับครัวเขาเองก็โดดเด่นเรื่องอาหารไทยโบราณพื้นเมืองมาก รสชาติจัดจ้าน เข้มข้น มีสมุนไพรเยอะ ขนมก็อร่อย อ๊อฟเลยเลือกเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารไทยมาค่ะ มีน้ำพริก ผัดผัก ขนมอื่นๆ ส่วนที่ขึ้นชื่อของเรือนไทยเขาก็ต้องยกให้ขนมถั่วเลยค่ะ
         สิ่งที่อ๊อฟชอบที่สุดในวันนั้นคือทุกอย่างได้ดั่งใจมากๆ เป็นไทยที่สุด มองกลับไปก็ไม่มีอะไรที่รู้สึกเสียดาย หรือไม่น่าทำเลย มันโอเคทั้งหมดแล้ว คนช่วยจัดงานก็เก่ง เพราะพิธีไทยมีขั้นตอนและความหมายมาก ละเอียดอ่อน พอได้มืออาชีพ คนที่มีประสบการณ์มาจัดการ ทุกอย่างก็ออกมาดี หยิบจับอะไรก็ถูกต้องไปหมด บรรยากาศลงตัวที่สุดค่ะ

แนะนำบ่าวสาว
วางแผนให้ดีๆ : ดูความชอบและงบประมาณของตัวเองเป็นหลักค่ะ บางอย่างไม่จำเป็นก็คือไม่จำเป็น แค่เลือกในสิ่งที่เราต้องการ แล้ววางแผนทุกอย่าง งบจะได้ไม่บานปลาย ขยันดู ขยันเลือก มีแรงทำเองไหวก็ประหยัดไปได้อีกเยอะ
ให้รู้ใจตัวเอง เป็นตัวเองที่สุด : ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เหมือนคนอื่น ทุกคนมีสไตล์ของตัวเอง แล้วงานมันจะออกมาสวยงาม เผยความเป็นตัวเองออกมาจริงๆ
ใส่ใจในทุกขั้นตอน : งานแต่งเป็นงานที่มีรายละเอียดเยอะค่ะ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำไป ตั้งใจกับทุกอย่างจริงๆ แล้วบรรยากาศงานจะออกมาดี แขกก็ประทับใจ