รีวิวงานแต่งแห่งปีของอยุธยา หรูหราด้วยโทนสี Rose Gold @Krungsri River Hotel

อลังการงานใหญ่ของอยุธยา @Krungsri River Hotel
         งานของแนทด้วยความที่บ่าวสาวเราเป็นคนอยุธยาทั้งคู่ และเป็นงานแรกของทั้งสองบ้าน บวกกับคุณพ่อคุณแม่มีธุรกิจ ดังนั้นแขกผู้ใหญ่จะเยอะหน่อยค่ะ แรกสุดเรามองหาสถานที่แต่งงานที่จะรองรับแขกได้ เราอยากได้ความรู้สึกแบบโรงแรม มีความหรูหราในตัว จึงเลือก Krungsri River Hotel (โรงแรมกรุงศรี ริเวอร์) ซึ่งถือว่าใหญ่สุดในอยุธยา

          ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมจัดโต๊ะจีนได้เต็มที่ 80 โต๊ะ แต่แขกเรามี 1200 คน ดังนั้นจึงเลือกเปิดห้องเล็กๆ ในชั้นเดียวกันอีกสองห้อง แล้วมีจอ OB ถ่ายทอดสดให้ได้ชม
          วันฉลองของเราอยู่ช่วงต้นเดือนมีนาคม แต่เราแพลนว่าจะแจกการ์ดตั้งแต่หลังปีใหม่ เพราะถือว่าเป็นช่วงที่ต้องไปสวัสดีปีใหม่ผู้ใหญ่อยู่แล้ว และเพราะแขกเยอะ ไปๆ มาๆ ก็แจกกันแทบถึงวันสุดท้ายก่อนวันงานเลยค่ะ (หัวเราะ)

สวยหรู ดูมีสไตล์ด้วยธีมสี Rose Gold
          เรื่องธีมสี แนทเริ่มจากเลือกสีที่ตัวเองชอบอย่างสี  Rose Gold แต่บุคลิกเราไม่ใช่คนหวาน พอมาบวกกับเจ้าบ่าวที่เป็นคนมีไอเดียเยอะ อยากได้แค่ดอกไม้น้อยๆ เน้นไปทางโครงสร้างมากกว่า งานเราเลยออกมาพอดีกันค่ะ
          การจัดโฟลว์ในงาน เนื่องจากเราจัดโต๊ะจีนเยอะ จึงต้องใช้พื้นที่ตรงด้านนอก เลยเอาแบ็คดรอปมาไว้ด้านล่างตรงล็อบบี้ ถ่ายรูปกันเสร็จเดินขึ้นบันไดวนไปก็จะเจอโต๊ะลงทะเบียน ข้างๆ มีวงดนตรีสามชิ้นคอยบรรเลง ถัดไปเป็นแกลอรี่ ทำเป็นเหมือนอุโมงค์ใหญ่ๆ ใช้โครงเหล็กทาสีโรสโกลด์ มีตะแกรงเกี่ยวดอกไม้ แล้วเราก็คัดรูปพรีเวดดิ้ง 6 รูปที่เราคิดว่าเริ่ดที่สุดมาตกแต่ง ซึ่งฟีดแบคดีสุดๆ ทุกคนไปถ่ายกันแล้วทำท่าเหมือนเราที่อยู่ในรูป น่ารักมาก แล้วพอเดินทะลุไปจนสุดก็จะถึงประตูห้องจัดเลี้ยงค่ะ

          สำหรับชุดเพื่อนเจ้าสาว ถ้าใช้ผ้าสี Rose Gold เลยก็จะหายาก โชคดีร้านที่เราไปตัดชุดเจ้าสาวเขาช่วยจัดการให้ ส่งเฉดสีผ้ามาให้ดู ซึ่งสวยมาก ตัวผ้าจะมีเลื่อมๆ เหลือบทอง เราสั่งมายกพับ แล้วแจกให้เพื่อนไปตัดกัน เอาทรงที่เขามั่นใจ เพราะสรีระแต่ละคนใส่สวยไม่เหมือนกัน

ชุดที่ชอบ และโพสต์ที่ใช่!
          ชุดเจ้าสาวเราเน้นเรียบหรูดูโก้ โดดเด่นที่คัตติ้ง ยิ่งเราเป็นคนหุ่นตรงอยู่แล้ว แนทเลยให้ร้านช่วยปรับดีไซน์ เสริมให้ดูเพรียว อย่างเวลาถ่ายรูปหน้าแบ็คดรอป ปกติเจ้าสาวอาจจะยืนตัวตรงจับมือกับเจ้าบ่าว ของแนทก็ไม่ค่ะ! เดี๋ยวจะดูตัน เราจะยืนตรงไม่ได้ (หัวเราะ) ก็เลยคุยกับช่างภาพว่าถ้ายืนเอียงหน่อยจะดีไหม แล้วคล้องแขนเจ้าบ่าวจะได้ดูมีเคิร์ฟ เขาก็ช่วยคอนเฟิร์มกลับมาให้อุ่นใจว่าไม่น่าเกลียด แค่ถ้ากับผู้ใหญ่เยอะๆ ก็อย่าโพสแรง แต่ถ้าเพื่อนก็เต็มที่ไปเลย
          ส่วนชุดเจ้าบ่าว เราได้เรฟมาจาก David Beckham ที่ใส่สีขาวแล้วดูเท่ บวกกับเจ้าตัวเขาเป็นคนโครงเล็ก ถ้าใส่สีขาวก็จะช่วยเสริมให้ดูสมาร์ท ตัวใหญ่ขึ้น จากที่ลังเลนิดนึงกลัวเหมือนเจ้าบ่าวสายทหารตำรวจในวันแต่ง เราก็เชียร์จนสำเร็จ ได้เจ้าบ่าว Beckham มาครอบครองในที่สุดค่ะ (หัวเราะ)

เปิดตัวแบบเซอร์ไพรส์
          สำหรับด้านในห้อง เราออกแบบให้ใช้พื้นที่ได้มากๆ และคิดไว้ว่าถ้าเปิดตัวเดินเข้างานตามปกติ ที่วางโต๊ะคงจะน้อย เราเลยให้ทีมออแกไนซ์ทำเวทีครอบเวทีที่มีอยู่เดิม ให้สูงและใหญ่ขึ้น และเอาความชอบเรื่องจอ LED จากการเป็นสาย EDM ของเจ้าบ่าวมาแม็ตช์ ทำให้ได้การเปิดตัวที่เราจะไปกันโดยทางลับของโรงแรม ยืนด้านหลังเวที และลงมาจากจอ LED ที่เลื่อนจากกันตรงกลาง เป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลย

          พิธีการงานเราถึงจะดูเหมือนขนแขกผู้ใหญ่มาทั้งอยุธยา แต่ก็ไม่อยากให้ยืดเยื้อ เพราะกลัวคนจะเบื่อ เลยให้คุณกฤต Sky News มาเป็นพิธีกร ไม่อยากใช้เพื่อนเพราะกลัวจะติดเล่นเกินไป เริ่มจากการเปิดวิดีโองานเช้าให้ดู แล้วเปิดตัวจากจอ LED เชิญคุณพ่อคุณแม่มายืนข้างๆ โดยเราเลือกประธานให้มีคนเดียวคือท่านเอกอัครราชฑูตขึ้นมากล่าวอวยพร ซึ่งเวลาท่านพูดก็น่าฟัง กระชับ เสร็จแล้วก็มีคล้องมาลัย คุณพ่อเจ้าบ่าวเป็นตัวแทนเจ้าภาพขอบคุณแขก

วิดีโอที่ทุกคนต้องพูดถึง
          หลังจากนั้นเราก็ดูพรีเซนเทชั่น ซึ่งทุกคนชอบมาก เพราะเจ้าบ่าวทำธุรกิจเกี่ยวกับโลจิสติกส์ เราคุยกันว่าไม่อยากถ่ายแบบทะเลภูเขา อยากถ่ายอะไรที่เป็นตัวเรามากกว่า เลยถ่ายที่ Warehouse ของเจ้าบ่าว ได้สไตล์แปลกแตกต่าง มีตั้งโซฟานั่งสัมภาษณ์ เหมือนคุยกับเพื่อนผ่านกล้อง พอตกเย็นทีม Cinema ก็ไอเดียพรั่งพรูมาก เขาเลยให้เอารถบรรทุกมาเรียงไว้รอบๆ พอตะวันตกดิน แสงหมด ก็เปิดไฟหน้ารถแล้วถ่ายย้อนเข้าไป ได้อารมณ์เหมือน Transformer เลย เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทุกคนชมกันมาก ไม่คาดคิดว่ารถบรรทุกจะเอามาทำอะไรแบบนี้ได้จริงๆ (ชมวิดีโอเพิ่มเติม คลิก https://vimeo.com/206871479)

          ปิดท้ายด้วยการสัมภาษณ์บ่าวสาวตามปกติ มีพูดความในใจ ขอบคุณแขก และตัดเค้ก หลังจากนั้นเราก็เริ่มอาฟเตอร์ปาร์ตี้
          ทีนี้เพราะเรามีโต๊ะจีนจำนวนมาก เราเลยเลี่ยงไปใช้สถานที่จัดอาฟเตอร์กันที่ร้านอิตาเลียนด้านล่างโรงแรม ปิดห้องเซ็ตเวที ติดต่อวงดนตรีไว้พร้อม เราใช้วง Creampie Band เล่นประจำอยู่ที่ร้านนั่งเล่น เอกมัย การันตีความมันส์  มีดีเจเปิดแผ่น จัดโซนล้อมรอบเวที คนจะได้ไม่กระจายตัว เรียกว่าในห้องมีแค่โต๊ะไว้วางแก้วเลย บรีฟไว้ว่าห้ามมีเก้าอี้เชียว เดี๋ยวคนนั่งแล้วจะไม่มันส์

แซ่บคูณสอง
          พอเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เปิดตัวด้วยเพลงประจำตัว ทุกคนยิงเปเปอร์ชู้ท แล้วส่งไมค์ให้เจ้าบ่าวร้องเพลงต่อ ส่วนฟลอร์ตรงกลางก็ไว้ให้เราสองคน มีโยนดอกไม้กันตรงนั้นเลย
          เรื่องนี้เราแพลนเอาไว้ว่าถ้าโยนช่วงอาฟเตอร์ข้างล่างเพื่อนน่าจะเอนจอยมาก เพราะไม่ต้องกังวลแขกผู้ใหญ่ แถมงานนี้แอลกอฮอล์ก็จัดเต็ม เหล้าสิบลัง แทบจะกินเพียว จัดหนักสำหรับสายแข็งกันเลย

          งานนี้เราประทับใจในทุกอย่าง เจ้าบ่าวเองก็จัดทีมพิเศษ 50 คนประกบแขกผู้ใหญ่ ส่งถึงโต๊ะ ไม่มีขาดตกบกพร่อง ยิ่งได้คุณแม่เจ้าบ่าวช่วยเตือนเราเรื่องดูแลความสะดวกสบาย ความปลอดภัยของแขกด้วย เราก็ยิ่งลงดีเทลประสานงาน เตรียมความพร้อมกันมาก มีการคุยล่วงหน้ากับการจราจร สำรองที่จอดรถใกล้ๆ มีรถราง มีจุดรับส่ง เราติดต่อกับจังหวัดเพื่อรับส่งแขก เลือกอาหารที่อร่อยและดีที่สุด จนถึงทุกวันนี้คนยังพูดถึง คนยังชม แขกแฮปปี้ คุณพ่อคุณแม่แฮปปี้ เราก็แฮปปี้ไปด้วย ครบสูตรมาก อย่างเดียวที่เราปฏิเสธไม่ได้วันนั้นก็คือทำให้อยุธยารถติดเท่านั้นเองค่ะ (หัวเราะ)

แนะนำบ่าวสาว
จัดงานครั้งเดียว ทำให้เต็มที่ : ยึดสิ่งที่เราชอบเป็นหลัก แต่ก็ต้องคำนึงถึงแขกด้วยเหมือนกันค่ะ อย่างของเราซีเรียสเรื่องความปลอดภัยของแขก เราก็มีเตรียมทีมตำรวจนอกเครื่องแบบช่วยเดินตรวจ ตระเวนพื้นที่รอบๆ งานด้วย เรียกว่าพยายามสร้างความประทับใจให้ในทุกส่วนจริงๆ
มั่นใจที่สุดในแบบที่เป็นตัวเอง : เหมือนงานแนทที่ทุกคนเดินเข้ามาแล้วโฟกัสที่ตัวเราจริงๆ บอกว่านี่แหละ แนทเลย ใช่เรา เช็คดูให้ดีๆ ว่าผมทรงไหนที่จะทำให้เราเกิด แต่งหน้าโทนไหนแล้วเราจะรอด จะได้ยิ้มและโพสต์ได้อย่างมั่นใจไปเลยค่ะ