The Paz KhaoYai สถานที่แต่งงานชนะเลิศด้วยวิวภูเขา
ปูเลือกจัดงานที่โรงแรม The Paz KhaoYai (เดอะ ปาซ เขาใหญ่) เพราะบ้านเราอยู่ปากช่องค่ะ คุณพ่อคุณแม่เองก็เป็นสายตระเวนชิมอาหารอยู่แล้ว พอขับรถไปเจอที่นี่ก็เลยชอบกันมาก บรรยากาศดี ตรงกับเราที่อยากจัดงานในสวน
ถ้าพูดถึงที่นี่อย่างแรกที่เป็นจุดเด่นคือวิวสวย ฉากหลังเวลาจัดงานออกมาจะเห็นภูเขา เรียกว่าสวยโดยที่ไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มมากเลยค่ะ
สำหรับการเตรียมงานครั้งนี้ปูมีเวลาล่วงหน้าแค่ 3 เดือน พอรู้วันปุ๊ปเราก็เริ่มหาชุด เสร็จแล้วก็เหลือแค่ตกลงกับทางโรงแรมและออแกไนซ์ให้เรียบร้อย
ปูเตรียมที่พักไว้ให้กับแขกโดยเหมาโรงแรมทั้งหมด ซาวน์เสียงไปแต่แรกเลยว่าใครอยากมางานแบบไปกลับ หรืออยากพักค้างคืนบ้าง ซึ่งผลออกมาคือหลังจากที่ทุกคนได้เห็นภาพ เห็นวิวโรงแรม ก็โหวตว่าอยากพักกันหมดเลย จนสุดท้ายแล้วที่แทบไม่พอ ครบหมด 40 กว่าหลังจนบางคนต้องพักข้างนอกเพิ่มเลยค่ะ (หัวเราะ)
รีเฟรชงานให้ดูสดใส ใช้ธีมเหลืองเขียว
การจัดงานของเราด้วยความที่เป็นงานเอ้าท์ดอร์ในสวน เลยอยากให้ภาพรวมออกมาดูสบายๆ ไม่ทางการมาก เริ่มงานกันเร็วนิดนึงเป็นช่วง 5 โมงเย็น แขกจะได้มาชมแสงพระอาทิตย์ตกก่อนเราเริ่มงานกัน
การตกแต่งและเดรสโค้ด ปูเลือกสีเหลืองและสีเขียวพาสเทล พยายามทำทุกอย่างให้กลมกลืนกับธรรมชาติ และรีเควสขอให้มีไฟปิงปองประดับตลอดทั้งงานด้วย
คาแรกเตอร์สุดคิ้วท์ ช่วยบิ้วด์บรรยากาศ
งานนี้ถ้าสังเกตดีๆ ตามมุมต่างๆ เราจะมีสัญลักษณ์บ่าวสาวเป็นตัวการ์ตูน ดีไซน์โดย Sibbil ปูชอบตรงที่มันใช้เล่นได้กับทุกอย่าง ตั้งแต่มุมลงทะเบียนเป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นการ์ด แท็กติดของชำร่วย กล่องใส่ซอง หรือแม้กระทั่งภาพในงาน ส่วนของชำร่วยเราเลือกใช้แท็กกระเป๋าเพราะแขกจะได้สามารถใช้ได้จริง บางส่วนอย่างที่เขียนคำอวยพรปูก็ลงมือทำเองค่ะ
ตรงมุมแกลอรี่ นอกจากภาพของบ่าวสาวแล้ว เรายังโชคดีได้พี่ที่รู้จักแอบทำหมอนคาแรกเตอร์ที่ว่านี้มาให้ เลยแอบขอเอามาใช้ในงานด้วย ออแกไนซ์ก็จัดวางไว้ให้ตรงเก้าอี้ ใช้เป็นกิมมิคถ่ายรูปแทนบ่าวสาวได้เลยค่ะ
สำหรับแบ็คดรอป เราเน้นเป็นงานไม้ มีเทียนกับดอกไม้ตกแต่ง เวทีก็ทำเป็นผ้าเรียบๆ มองมุมไหนก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติอยู่
ชุดเจ้าสาวด้วยความที่ปูชอบแบบเรียบๆ เลยเลือกแบบชายกระโปรงไม่ลากยาว เพราะงานเราเป็นพื้นหญ้า จะได้ช่วยให้เดินง่าย ส่วนเจ้าบ่าวก็สูทน้ำเงินมาเลย จะได้ดูไม่โดดไปจากธีม
การจัดเลี้ยงเราใช้เป็น Heavy Cocktail ซึ่งต้องขอชมเลยว่าเชฟของที่นี่เก่งมากๆ ตั้งแต่ตอนเทสต์อาหารที่เขาจัดมุมห้องประชุมให้เป็นเสมือนงานแต่ง ทำให้เราเห็นภาพ ตัวอาหารก็ทำออกมาได้เป็นคำเล็กๆ น่ารักมาก มีทั้งไทยทั้งนานาชาติ มีสปาเก็ตตี้ สเต็กแบบพอดีคำ ทานแล้วอิ่มแบบไม่ต้องเพิ่มซุ้มเลย
เปิดตัวด้วยอุโมงค์ไฟเย็น
ช่วงพิธีการเราเริ่มจากการที่เจ้าสาวนั่งรถกอล์ฟมากับคุณพ่อ ขับขึ้นไปที่งานจะเจอเพื่อนบ่าวสาวถือไฟเย็นรออยู่ พอรถจอดแล้วเราก็จะพากันเดินไปหาเจ้าบ่าวกันค่ะ
หลังจากลอดอุโมงค์ไฟเย็นกันเสร็จแล้ว ก็จะขึ้นไปบนเวทีที่อยู่บนเนิน มีประธานมาคล้องพวงมาลัย กล่าวอวยพร แต่ไม่มีไชโย พิธีการสัมภาษณ์ตามปกติ หลังจากนั้นก็ตัดเค้ก ซึ่งพิเศษมากๆ ตรงที่เชฟเขาครีเอทเค้กตามธีมสีให้ และมีช็อกโกบอลเสียบไม้ประดับอยู่รอบๆ ดูแปลกตา เสร็จงานแล้วแขกก็สามารถหยิบมาทานได้เลย
ใกล้จบพิธีการ ปรากฏว่าเจ้าบ่าวของเราก็ทำเซอร์ไพรส์ เพราะตอนที่ตัดสินใจจะแต่งงานกัน เรายังไม่ได้มีการขอแต่งงานอย่างเป็นทางการ งานนี้เขาก็เลยคุกเข่าขอตรงนั้นเลย มีมอบดอกไม้ให้ด้วย เป็นโมเม้นท์ซึ้งๆ แบบว่าเซอร์ไพรส์ของจริงเลยค่ะ (หัวเราะ)
อบอุ่นอยู่ในหัวใจ
งานของปูจบช่วงพิธีการทั้งหมดลงแค่ตรงนี้ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงหลังจากในหลวงรัชกาลที่ 9 เสร็จสวรรคตได้ไม่นาน คุณพ่อเองก็เป็นราชการ การโยนดอกไม้และการตั้งวงดนตรีแบบมีนักร้องจึงถูกตัดออกทั้งหมดเลย
โดยรวมแล้วงานนี้ยังเป็นงานที่ปูประทับใจอยู่มาก แม้ตัวโรงแรมจะอยู่ไกล แต่แขกก็มากันเยอะกว่าที่คิด ทุกคนแฮปปี้กับทั้งอาหารและสถานที่ รู้สึกอยากกลับมาที่นี่อีก นอกจากนี้ยังชมว่างานเราสบายๆ ให้อารมณ์รีแล็กซ์ ถือเป็นเรื่องดีมากๆ ที่ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศที่เกิดขึ้นได้ในช่วงนั้นค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
การรันคิวสำคัญกว่าคิด : อย่างงานปู เราแต่งหน้าเสร็จก็สี่โมงกว่าแล้ว งานเริ่มห้าโมง แขกมาเร็วเพราะทุกคนรีบมาดูวิว บางส่วนก็จะไม่ได้ถ่ายรูปกับบ่าวสาวเพราะเริ่มทยอยกันเข้างาน จากเรื่องนี้ปูเลยอยากให้ทุกคนให้สำคัญกับเรื่องการรักษาเวลา ทำทุกอย่างให้กระชับ ทันไทม์ไลน์ที่ตั้งใจ หรือถ้ามีคนมาช่วยกำกับรันคิวให้ดี ก็จะช่วยให้โฟลว์งานดีขึ้นได้กว่านี้อีกเหมือนกัน