Le Meridien Bangkok สถานที่แต่งงาน 2 ชั้น พร้อมครัวเปิดสุดเก๋
แฟนแพงทำงานอยู่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ค่ะ เลยอยากได้สถานที่แต่งงานใกล้ๆ เดินทางสะดวก ซึ่งพอมาดูที่ Le Meridien Bangkok (เลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ) ก็ตอบโจทย์เลยค่ะ ห้องไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เล็ก ที่จอดรถเพียงพอ มีสำหรับ VIP หลายคัน มีลานจอดรถตู้เซอร์วิสให้ด้วย แล้วคอนโดเราอยู่สุรวงศ์ ขับรถมาได้สะดวก นอกจากนี้ยังชอบที่อยู่ใกล้ BTS ด้วยค่ะ แขกส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ แล้วแพงจัดงานแบบปาร์ตี้ ก็ห่วงว่าเพื่อนจะเดินทางกลับปลอดภัยไหม พอมีรถไฟฟ้าก็สะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ
งานของแพงใช้ห้อง Grand Atelier ค่ะ ตัวห้องเพดานสูงถึง 9 เมตร และยังเป็น Duplex 2 ชั้น ทำให้รู้สึกโปร่ง ไม่อึดอัดเลย สำหรับห้องนี้รองรับแขกได้เต็มที่ประมาณ 350 คน แพงเปิดใช้แค่ชั้นล่างก็เหมาะกับแขก 200 คนของเราพอดี ซึ่งพอเปิดแค่ชั้นเดียว ชั้นลอยด้านบนเพื่อนๆ หรือช่างภาพ สามารถขึ้นไปดูหรือถ่ายรูปได้ เราก็จะได้มุมมองรูปอีกแบบหนึ่ง ดีมากเลยค่ะ
แล้วยังมีส่วนครัวเปิดให้ชมเชฟทำอาหารในห้องได้ด้วยนะคะ ซึ่งตรงนี้ตั้งซุ้มอาหารได้ 3 ซุ้ม แต่ถ้ามีแขกมาก สั่งซุ้มอาหารเยอะ ทางโรงแรมมีพื้นที่ให้จัดเพิ่มรองรับได้อยู่ค่ะ
ครีเอทงานสวยแซ่บ โดนใจสายปาร์ตี้
เราอยากได้งานที่ดูเหมือนมาปาร์ตี้สนุกๆ กันมากกว่ามางานแต่ง จึงตั้งคอนเซ็ปต์เป็น Wedding Party และใช้ธีมสี Midnight Blue กับ Gray เป็น 2 สีหลักค่ะ งานจะออกเป็นสไตล์ Modern Party มีดอกไม้เพิ่มความหวานนิดหน่อย จริงๆ ตอนแรกเราจะไม่ใช้ดอกไม้เลยนะคะ แต่ด้วยตัวแพงเองเป็นผู้หญิงที่แอบมีหวานนิดๆ เลยอยากได้ความหวานเพิ่มเข้ามาค่ะ
ซึ่งเมื่อแขกออกจากลิฟต์จะเจอทางเดินของโรงแรมเป็นพื้นกระจกมีคริสตัล ที่เวลาเปิดไฟก็จะสะท้อนสีเขียวสวย จากนั้นจะเจออุโมงค์แกลอรี่ ที่ด้านในฝั่งซ้ายเราทำเป็นรูปไทม์ไลน์เรื่องราวของเรา และมีคำว่า different but perfect match ที่เราใส่ไฟนีออนเข้าไปให้ดูเป็นปาร์ตี้ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นภาพพรีเวดดิ้งแบบ Portrait
สุดอุโมงค์จะเป็นแยกตัวทีค่ะ มองตรงไปจะเป็น Bamboo Chic Bar ซึ่งวันงานทางโรงแรมก็ปิดบาร์ทั้งโซนให้ เป็นบาร์ของงานเราเลย มีเสริฟ์เครื่องดื่มต่างๆ สามารถออเดอร์เครื่องดื่มที่โรงแรมและเราจัดเตรียมได้โดยตรง ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของที่นี่ด้วยเหมือนกัน หันไปทางซ้ายจะเป็น Backdrop ที่ทำเป็นสตูดิโอ เพราะเราอยากได้รูปที่เหมือนมาปาร์ตี้มากกว่างานแต่ง โดยจะเพิ่มเก้าอี้ถ่ายรูปทรงสูงให้นั่ง แอคชั่นได้เต็มที่ หรือจะเอาเก้าอี้ออกก็ทำได้ เหมือนไปสตูดิโอสมัยเด็กค่ะ ส่วนทางขวาจะเป็นโต๊ะลงทะเบียนและแจกที่เปิดขวดแม็คเนตที่เป็นของชำร่วยค่ะ พอผ่านโต๊ะลงทะเบียนก็เข้างานเลย
ในงาน พอเดินเข้าประตู มองตรงไปจะเป็นพื้นยกสูงแค่บันได 3 ขั้น ตรงนี้เราทำเป็นเวทีเล็กๆ ซึ่งถือเป็นอีกข้อดีของห้องนี้นะคะ เพราะทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้อยู่ไกลกับแขกเลย ทางขวามือเราทำเป็นเวทีคอนเสิร์ตเล็กๆ ส่วนทางซ้ายมือเป็นโซนอาหาร มีซุ้ม โต๊ะวางอาหารค็อกเทลเล็กๆ และเก้าอี้นิดหน่อย ใกล้ๆ เวที ติดผนังมีโต๊ะ long table 15 ที่นั่ง สำหรับให้ผู้ใหญ่นั่งคุยกันด้วยค่ะ
ไม่เน้นพิธี สายปาร์ตี้ขอจัดเต็ม
งานแพงเป็นเหมือนงานรวมรุ่น เพราะแขกส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ และคนสนิท ก็จะสนุกแบบวัยรุ่นกัน พิธีการไม่ได้เยอะ แต่จะไปเต็มที่กับปาร์ตี้ งานเหมือน Private Party ค่ะ
ช่วงพิธีจะเริ่มตอน 19.00 น. ด้วยการเปิดตัวบ่าวสาว โดยเจ้าบ่าวจะร้องเพลง walk you home รออยู่ข้างในงาน แล้วพอประตูเปิดแพงก็จะเดินเข้าไปร้องเพลงท่อนสุดท้ายร่วมกัน แล้วเดินขึ้นเวที ที่เราร้องเพลงตอนเปิดตัวเพราะเจ้าบ่าวเป็นนักดนตรี แต่แพงไม่ชอบร้องเพลง เราจึงอยากมีสักครั้งที่ได้ร้องเพลงด้วยกันค่ะ
จากนั้นก็เปิดวีดีโองานหมั้นตอนเช้าและพรีเซ็นเทชั่น ตอนนี้ก็เรียกน้ำตากันไปนิดนึงด้วยค่ะ(หัวเราะ) เสร็จแล้วเจ้าบ่าวมีเซอร์ไพรส์ให้แพงด้วยการร้องเพลงและเล่นกีต้าร์เพลงคู่ชีวิตให้ฟัง ต่อด้วยเพื่อนมาพูดและอวยพรเรา 6 คน ห้องนี้ที่แพงชอบอีกอย่างคือส่วนที่ใช้เป็นเวทีไม่สูง ทำให้ไม่รู้สึกว่าอยู่ไกลกับแขก ซึ่งแพงกับพี่อาร์ต(เจ้าบ่าว) สามารถลงไปอยู่ตรงกลางห้อง มีเพื่อนยืนข้างๆ ได้ พอเพื่อนพูดเสร็จ ถ้ามีคนอยากพูดก็สามารถยืนพูดได้เลย มันเป็นฟีลลิ่งที่อบอุ่นมากค่ะ หลังจากนั้นเราก็ไปรินแชมเปญ โยนดอกไม้ แล้วก็เริ่มอาฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ
ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้เราจัดเต็มค่ะ ขนพร็อพมาให้เล่นกันเต็มที่ โดยจะเปิดงานด้วยการที่เจ้าบ่าวตีกลองเพลงของ Big ass แล้วมีเพื่อนสนิทเขามาร้องเพลงให้ ส่วนแพงก็เป็นสายแดนซ์กับเพื่อนอยู่ข้างล่างเวที ตลอดงานก็ได้เพื่อนๆ ที่เป็นนักร้องผลัดกันขึ้นไปร้องเพลงและเล่นดนตรีให้ แพงกับพี่อาร์ตมีซ้อมเต้นเพลง YMCA มาด้วยค่ะ เป็นเพลงสนุก ที่ใครก็เต้นได้ ตอนเพลงนี้ขึ้นก็เต้นกันทั้งงานเลย แล้วเราก็มียิงเปเปอร์ชู้ท ทำให้ได้รูปฟีลสนุกๆ สวยๆ อีกรูป เป็นงานที่สนุกจริงๆ ค่ะ
แพงคิดไม่ผิดจริงๆค่ะ ที่เลือก Le Méridien Bangkok คือใช่เลย เพราะ ตัวห้องทำให้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง เราได้ใกล้ชิดและสัมผัสได้ถึงแขกทุกคนที่มา เรื่องการบริการก็ดีจริงๆ คุณแม็คที่เป็นเซลล์ ดูแลดีมาก ตอนเราเข้าไปติดต่อ เขาพาไปเดินดูสถานที่ ให้ดูทุกอย่าง อยากทดสอบระบบไฟก็ได้ แล้วพูดจาดี ปรึกษาได้ตลอด คุยกันจนสนิทกันเลยค่ะ เราสบายใจที่เขาไม่ได้ปล่อย แล้วให้ไปลุ้นหน้างานว่าจะเจออะไรบ้าง ส่วนเรื่องอาหารนี่ต้องชมเลย อร่อยจริง วันงานคือฟีดแบคดีมาก ทุกคนชมอร่อย อยากเอากลับบ้าน(หัวเราะ) ภาพรวมโอเคจนแขกที่มางานอีก 2 คู่ เลือกจัดงานต่อเลยค่ะ(หัวเราะ)
นอกจากนี้ทีมงานทุกฝ่าย ทั้งทีมออแกไนซ์ เซ็ตอัพ ทีมรันคิว ก็คุยกันง่าย อยากได้อะไร แบบไหน สามารถบอกได้ ทำให้ได้งานออกมาตรงใจ สมูท ผ่านไปด้วยดี โดยรวมทุกอย่างมันแฮปปี้มาก เราประทับใจทุกอย่างจริงๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
เลือกสถานที่จัดงานที่ใช่ : ได้ฤกษ์แต่งงานแล้ว คุยกันให้ดีว่าอยากให้งานเป็นแบบไหน แล้วไปหาสถานที่ในสไตล์ที่ใช่สำหรับเราก่อน ถ้าได้สถานที่ที่ใช่ จะไม่ต้องตกแต่งเยอะค่ะ เพราะสถานที่เหมาะกับงานอยู่แล้ว แล้วจะไม่กังวลว่างานจะออกมาในแบบที่อยากได้หรือเปล่าเลย
เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ : ดูว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง แล้วค่อยๆ ทำเป็นลำดับ จะได้ไม่ฉุกละหุก
บ่าวสาวมีหน้าที่ยิ้ม : วันงานถ้ามีออแกไนซ์ปล่อยให้เป็นหน้าที่ออแกไนซ์ เรามีหน้าที่ยิ้ม แล้วมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันสำคัญมากนะคะ เพราะรูปที่ออกมาจะดูดี แล้วจะเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเรา
ไม่ต้องถ่ายบนห้องเยอะ : ถ้าลงไปงานช้า แขกมา เราจะถ่ายรูปในงานที่จัดตกแต่งไว้สวยๆ ได้น้อยลงค่ะ
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ!
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าสาว SabuyWedding
หรือเลือกดูโปรโมชั่นตามประเภทร้าน
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ! (1 รายการ)