The Botanical House Bangkok สถานที่สวยครบ ผ่อนคลาย ใกล้ชิดธรรมชาติ
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้แป้งและพี่กอล์ฟ (เจ้าบ่าว) เห็นตรงกันว่า เราจะจัดงานแต่งที่ให้อารมณ์อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ให้แขกที่มางานรู้สึกสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องมีแขกเยอะแต่เน้นคนที่มีความหมายกับชีวิตของเราทั้งคู่จริงๆ
พอได้แนวคิดการจัดงานที่ชัดเจนแล้ว แป้งก็พยายามหาสถานที่ให้เหมาะสม ตอนที่ไปสำรวจ The Botanical House Bangkok(เดอะ โบทานิคอล เฮ้าส์) รู้สึกว่าสถานที่สวยมาก บรรยากาศของตัวอาคารลงตัวเข้ากับพื้นที่สวนสีเขียว มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ผ่อนคลาย แถมมีเฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เราก็จินตนาการว่าไม่ต้องแต่งอะไรมากมายก็สวยจึงเลือกจัดงานหมั้นเช้าและฉลองเที่ยงที่นี่ค่ะ
ให้ธรรมชาติเล่าเรื่อง ผสานธีมสี Beige - Khaki และ Dusty Pink
สำหรับธีมสีงานจะเป็นสี Beige - Khaki และ Dusty Pink โดยงานหมั้นและงานฉลองจัดคนละส่วนกัน โดยจุดทำพิธีหมั้นจะมีแค่ฉากหลังที่ใช้โครงสร้างคล้ายลูกกรงประดับดอกไม้และกล้วยไม้สีขาว ทำให้ดูโปร่งโล่ง ไม่บดบังบรรยากาศธรรมชาติด้านนอก ซึ่งจุดนี้ ยังใช้เป็นฉากแบ็คดร็อปถ่ายภาพร่วมกับแขกอีกด้วยค่ะ
ส่วนพื้นที่สำหรับจัดงานฉลองนั้น แป้งคิดว่าองค์ประกอบของสถานที่ดูลงตัวอยู่แล้ว เราก็เพิ่มแค่เพิ่มพุ่มดอกไม้ระหว่างโคมไฟและแต่งเติมชื่อบ่าว-สาว ให้ดูพิเศษยิ่งขึ้น ตามโต๊ะทั่วบริเวณวางภาพคู่ของเราให้ดูเหมือนมางานที่บ้านจริงๆ ค่ะ
พิธีหมั้นและฉลอง ได้ซาบซึ้งและอบอุ่นใจ ตรงคอนเซปต์
สำหรับงานหมั้นเราเริ่มด้วยพิธีสงฆ์ ใส่บาตร ต่อมาก็แห่ขันหมากและสู่ขอ จากนั้นเจ้าบ่าวออกมารับตัวเจ้าสาวที่สวน แล้วเดินกลับไปห้องงานเพื่อมอบสินสอด สวมแหวน และไหว้ผู้ใหญ่ พอถึงช่วงรดน้ำสังข์ก็ออกมาที่สวนด้านหลัง ซึ่งแปลนของ Botanical ดีตรงที่แม้แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน แต่ยังสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งหมด ทำให้ลำดับพิธีในตอนเช้าราบรื่นมากค่ะ
หลังจบช่วงพิธีหมั้นแขกส่วนใหญ่เริ่มเข้าไปในห้องจัดงานฉลอง โดยเราเลือกจัดโต๊ะแบบ Long Table 2 แถว และยังจัดโต๊ะกลมไว้รับรองแขกผู้ใหญ่อีก 5 โต๊ะ ซึ่งลงตัวกับแขกจำนวน 100 ท่านพอดีค่ะ สำหรับอาหารเป็นเซ็ตเมนู 5 คอร์ส ทยอยเสิร์ฟที่โต๊ะทีละคอร์ส โดยแป้งเลือกอาหารของทาง Botanical ทั้งหมด ซึ่งแขกก็ชม เพราะทั้งอร่อยและมีการตกแต่งที่สวยงามจนมีการถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียกัน เมนูอาหารมีสลัดกุ้ง Ama Ebi สปาเก็ตตี้ปลากะพงย่างราดซอสมิโซะ ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิว เป็นต้นค่ะ
เมื่อได้เวลาเปิดตัวบ่าวสาว เจ้าบ่าวเข้าประตูฝั่งสวนมารอกลางห้อง ส่วนแป้งจะเดินมาเข้าพร้อมกับคุณพ่อจากประตูที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นเราสองคนเดินผ่านเพื่อน ๆ ที่ยืนโปรยกระดาษเมทัลลิค ตั้งแต่ช่วงนี้ เราจะปิดไฟเพดานทั้งหมด เพื่อใช้แสงธรรมชาติที่ลอดผ่านกระจกจากด้านนอก โดยตั้งใจให้เป็นอารมณ์กึ่งงานกลางคืน ได้แสงสลัว โรแมนติคเบาๆ ไม่มืดตื้บจนน่ากลัวค่ะ (หัวเราะ)
ไฮไลท์ในช่วงงานเลี้ยงเราได้พี่โอ้ เสกสรรค์ ปานประทีป ศิลปินคนดังยุค 90 ที่สนิทสนมกับเจ้าบ่าวให้เกียรติมาร้องเพลงในงาน ด้วยน้ำเสียงของพี่โอ้ที่นุ่มนวล ฟังเพลิน ยิ่งทำให้งานดูซาบซึ้งอบอุ่น แขกชื่นชอบกันมากค่ะ เราเองมีเซอร์ไพร์สแขกด้วยการร้องเพลงคู่กัน คือ Way Back Into Love เพลงซาวด์แทร็กหนังเรื่อง Music and Lyrics ค่ะ จากนั้นมีคุณพ่อคุณแม่บ่าว-สาวมากล่าวอวยพร รวมถึงมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ ยืนพูดความในใจกันจากตรงที่นั่งด้วย เสร็จแล้วถึงรินแชมเปญทาวเวอร์ และไปโยนช่อดอกไม้ให้เพื่อนๆค่ะ
คุณพ่อเจ้าสาว และเจ้าบ่าว พร้อมใจเซอร์ไพร์สจนเจ้าสาวน้ำตาไหล
แป้งโดนเซอร์ไพร์สสองรอบค่ะ ซึ่งอยากบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่แป้งนึกถึงทีไรก็น้ำตารื้นทุกที เซอร์ไพร์สแรก จะเป็นจังหวะที่เชิญคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝั่งมาอวยพรกันที่ด้านหน้า พอมาถึงตาคุณพ่อแป้ง เขาเดินไปวงดนตรีแบ็คอัพ นั่งลงเล่นกีตาร์ และร้องเพลงที่ตั้งใจแต่งให้แป้งโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเรื่องราวตั้งแต่แป้งยังเด็กที่คุณพ่อไปรับไปส่งที่โรงเรียนจนเติบโตขึ้นมา พอได้ฟังน้ำตาแห่งความประทับใจก็มาเต็มเลย
สำหรับเซอร์ไพร์สที่สองเป็นส่วนที่พี่กอล์ฟร้องเพลงรัก ของศิลปินพี่ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ พร้อมฉายพรีเซนเทชั่นที่ประมวลภาพเราสองคนตั้งแต่รู้จักกันใหม่ ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้น้ำตาไหลก๊อกสอง จนเพื่อน ๆ มีแซวว่า วันนี้เจ้าสาวต้องสวย ห้ามร้องไห้นะ (หัวเราะ)
บ่าว-สาวทำด้วยใจ แขกสัมผัสได้ถึงความรัก
แม้ว่าเราทั้งคู่จะงานเยอะ แต่ก็อยากลงมือทำงานบางส่วนด้วยตัวเอง เราจึงออกแบบการ์ดเชิญ เลือกกระดาษและปริ้นท์เอง อย่างของชำร่วย เราเลือกแก้วกาแฟดินเผาแฮนด์เมดแบบสั่งทำพิเศษ พี่กอล์ฟก็ผูกโบว์เองทีละชิ้นเลยนะคะ ป้ายชื่อแขกที่วางอยู่บนโต๊ะทั้ง 100 ใบ เราเขียนกันเองด้วยลายมือ ใช้เวลาเขียนนานเกือบสองชั่วโมง ซึ่งวันรุ่งขึ้นก็จะแต่งงานแล้วด้วยนะ (หัวเราะ) อันนี้ทำให้แขกประทับใจมาก
แม้กระทั่งการวางผังที่นั่งเราก็จัดเองด้วยค่ะ คือดูว่าใครสนิทกับใคร แขกแต่ละท่านนั่งตรงไหนแล้วจะรู้สึกสบายใจ ซึ่งข้อดีของการลงมือทำเอง ก็คือได้ผลลัพธ์แบบที่เราตั้งใจ แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่มันคุ้มค่า ดีต่อใจเวลาที่ได้เห็นสิ่งที่เราทุ่มเทแรงกายแรงใจอยู่ในงาน มันจะสะท้อนเรื่องราวดี ๆ ออกมาเสมอ
ใจเบิกบานในงานเต็มไปด้วยรักและคำชื่นชม
แป้งประทับใจที่งานออกมาดีกว่าที่จินตนาการไว้ โดยเฉพาะได้เห็นแขกมีทั้งร้องไห้และซาบซึ้งกับช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน ขนาดช่างภาพยังยิ้มแก้มปริเลย เหมือนข้อความที่เราตั้งใจส่งไปให้คนในงานรับรู้นั้น มันถูกส่งสำเร็จแล้ว
แป้งอยากขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือในงาน เพราะงานแป้งไม่ได้จ้างออแกไนเซอร์ แต่ได้เพื่อนที่อาสามารับหน้าที่ด้วยความเต็มใจ ทั้งพิธีกร ทีมรันคิว ซึ่งแป้งไม่ได้บังคับนะคะ (หัวเราะ) สิ่งที่เห็น คือ เพื่อน ๆ เองก็ทำเต็มที่เพื่อทำให้งานราบรื่น
สุดท้ายนี้ อยากขอบคุณ ทีมงาน Botanical เป็นพิเศษจริงๆ อย่างที่บอกว่าแป้งตั้งใจเลือกคนที่สนิทมารับหน้าที่สำคัญหลาย ๆ อย่างในงาน แต่ทีมสถานที่ก็คอยอำนวยความสะดวกและช่วยดูแลงานส่วนใหญ่ แถมยังเข้าใจในดีเทลเล็ก ๆ ที่เราต้องการ เป็นทีมซัพพอร์ตที่มืออาชีพจริง ๆ ค่ะ อีกทั้งสถานที่เองก็สวย เซอร์วิสครบ สมบูรณ์แบบ คิดไม่ผิดเลยค่ะที่เลือกที่นี่
แนะนำบ่าว-สาว
ทุกคนล้วนเป็นมือใหม่ในการแต่งงาน ดังนั้น อย่ากดดันตัวเอง : เรามองว่าทุกคนต่างเป็นมือใหม่ในการแต่งงาน ไม่มีประสบการณ์มาก่อน จึงไม่ควรกดดันตัวเองเกินไป และสิ่งสำคัญ ควรคุยกับคู่ของตัวเองเยอะ ๆ พยายามใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์ เราต้องพูดคุยเพื่อความเข้าใจจนได้รูปแบบงานที่ชอบเหมือนกัน และเมื่อได้ความต้องการชัดเจนแล้วก็อยากให้รื่นรมย์ไปกับทุกขั้นตอนของการเตรียมงาน เพราะเมื่อเรามองย้อนกลับไปเราจะได้ระลึกถึงแต่ความทรงจำดี ๆ ที่ทำให้เรามีรอยยิ้มค่ะ
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ!
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าสาว SabuyWedding
หรือเลือกดูโปรโมชั่นตามประเภทร้าน
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ! (1 รายการ)