Park Hyatt Bangkok สถานที่แต่งงานสไตล์โมเดิร์น พร้อมผนังห้องเปลี่ยนสีได้
เอต้องการสถานที่จัดงานแต่งงานที่ต่างจากห้องธรรมดาแบบเดิม ประกอบกับตั้งใจจัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ พอมาเจอ Park Hyatt Bangkok (พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ) รู้สึกชอบค่ะ เป็นโรงแรมใหม่ที่มีความสวยงาม ดูโมเดิร์นในตัวอยู่แล้ว มีบันไดวนเป็นไฮไลท์ ตัวห้องบอลรูมและแชนเดอเลียก็สวยมาก ผนังห้องไม่ใช่กำแพงตรงทื่อ แต่ดีไซน์เป็นคลื่น มีไฟ LED และ RGB ทำให้สามารถเปลี่ยนสีได้ตามธีมงาน มันดูพิเศษ ซึ่งเอมองว่าเข้ากับอาฟเตอร์ปาร์ตี้ดี ก็เลยตัดสินใจเลือกแต่งงานที่นี่ค่ะ
ความสะดวกสบายของแขกและทีมงานก็เป็นอีกเรื่องที่เอคำนึงถึงค่ะ เราจัดงานพิธีตอนเช้าและเลี้ยงตอนเย็น มีบางคนที่มาตั้งแต่เช้า ต้องมีที่สำหรับพักผ่อน เปลี่ยนชุด เตรียมตัว ซึ่งเราได้บริเวณที่จัดงานทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นก็มีทั้งห้องบอลรูมเล็ก ห้องประชุม ห้องพักผ่อนที่มีห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถใช้ได้ เอจึงแบ่งห้องต่างๆ ให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ โดยจัดของว่างและเครื่องดื่มไว้ตลอด ให้ทุกคนได้พักผ่อนได้เต็มที่ค่ะ
ตกแต่งเรียบหรู ดูอบอุ่น ด้วยโทนชมพูทอง
งานเช้าและเย็นเราใช้ห้องบอลรูมเดียวกันค่ะ เพียงแค่ตอนเช้ากั้นห้องเป็น 2 ส่วน 30% ใช้ทำพิธี อีก 70% ไว้ทานเลี้ยงเที่ยง ซึ่งการตกแต่งก็จะเหมือนกัน เออยากให้งานออกมาเรียบหรู แต่ดูอบอุ่น จึงเลือกใช้สีชมพูทองเป็นสีหลัก และนำโครงสร้างของโรงแรมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการตกแต่งล้อไปกับตัวสถานที่ แล้วประดับด้วยดอกไม้สดนำเข้าที่เอชอบค่ะ
ตรงทางเดินตั้งแต่หน้างานเรานำรูปมาตั้งไว้ไล่ตามบันไดวนลงมาถึงโต๊ะลงทะเบียนที่อยู่เยื้องกับ Backdrop ส่วนของ Backdrop เราทำให้เหมือนคลื่น โค้งล้อไปกับเสาของโรงแรม ตกแต่งด้วยดอกไม้ใบไม้และโลโก้ชื่อบ่าวสาวค่ะ
สำหรับในห้อง เวทีเราประดับด้วยดอกไม้ ฉากหลังออกแบบเป็นซี่ตรงลงมาเพื่อให้เข้ากับผนังห้อง แล้วใส่ไฟ LED เพิ่มเข้าไป บริเวณพื้นด้านล่าง ตอนเช้าเราจัดเก้าอี้เป็นแบบเธียเตอร์ ส่วนตอนเย็นเราจัดเป็นโต๊ะแขก VIP ไว้หน้าเวที แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 5 โต๊ะ ตรงกลางเป็นเค้ก ถัดมาเป็นโต๊ะสตูสำหรับแขกที่ยืน แล้วข้างหลังห้องจัดเป็น Food Station รูปตัวยู 10 บูธค่ะ นอกจากนี้เอมีเปิดห้องบอลรูมเล็กที่อยู่ใกล้ๆ ให้แขกไปนั่งได้ ทางโรงแรมเองก็จัดเก้าอี้ไว้ให้นอกห้องด้วย ฉะนั้นก็จะไม่มีปัญหาแขกไม่มีที่นั่งค่ะ
ปรับรูปแบบอาหาร สร้างความประทับใจให้แขก
การจัดเลี้ยงของงานเอเป็นแบบค็อกเทลที่พิเศษนิดนึงค่ะ ด้วยที่เคยไปงานแต่งงานและเห็นปัญหาของการเลี้ยงค็อกเทลที่แขกส่วนใหญ่จะทานอาหารตรงซุ้มมากกว่าแบบเป็นคำ ซึ่งพออาหารที่ซุ้มหมด ก็จะทำให้แขกรู้สึกว่าอาหารไม่เพียงพอ ทั้งที่จริงแล้วแบบเป็นคำยังเหลือ นอกจากนี้แขกมักจะได้ทานอาหารที่เย็นเพราะไม่มีการอุ่นร้อน เอจึงเปลี่ยนอาหารเป็นแบบ Food Station ทั้งหมด 10 ซุ้ม เน้นอาหารที่ทานง่ายและอยู่ท้อง เช่น พาสต้า แองกัสสเต็ก ปลาแล่เป็นคำ เป็ดปักกิ่ง ราดหน้าล็อบสเตอร์ ไอติมผัด ข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ
การจัดเลี้ยงรูปแบบนี้ทำให้มีพื้นที่ว่างตรงบริเวณที่เดิมต้องวางโต๊ะค็อกเทล เอจึงนำโต๊ะสำหรับคนที่ต้องยืนทานมาลงแทน ช่วยแก้ปัญหาแขกบางคนไม่มีที่วางจาน ทานไม่สะดวกได้ด้วยค่ะ
ครบถ้วนทุกพิธี พร้อมปาร์ตี้จัดเต็ม
งานของเอเป็นพิธีจีนผสมอิสลาม เริ่มที่แห่ขันหมากแบบจีน แล้วต่อด้วยพิธีสวมแหวน เรามีช่วงที่ให้คุณพ่อคุณแม่และบ่าวสาวพูดความในใจนิดหน่อยด้วยค่ะ จากนั้นก็ทานขนมอี๋
เนื่องจากแขกงานเราค่อนข้างเยอะ กลัวไม่ทันฤกษ์ เราจึงจดทะเบียนสมรสตอน 09.09 น. ก่อน แล้วค่อยยกน้ำชา จากนั้นเอก็ไปเปลี่ยนชุดสำหรับทำพิธีนิกะห์ค่ะ
ช่วงทำพิธีนิกะห์ ผู้ชายที่ทำพิธีทุกคนจะอยู่บนเวที ส่วนเจ้าสาวและแขกที่เป็นพยานจะนั่งอยู่ข้างล่างค่ะ มีให้ดื่มนมแก้วช็อตเล็กๆ และกินอินทผาลัม เป็นอันเสร็จพิธีช่วงเช้า ตอนนี้เราก็จะเชิญแขกทานอาหาร ส่วนเอก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดเดิม แล้วไปทำพิธีส่งตัว โดยมีคุณแม่เป็นคนปักใบทับทิมที่ผมให้ค่ะ
สำหรับงานเย็น ตอนเปิดตัวบ่าวสาว เอคิดไว้แล้วว่าอยากจะเดินควงคุณพ่อเข้างาน บรรยากาศจะได้ดูอบอุ่น โดยเอมาจากทางประตู ส่วนแฟนก็เดินถือดอกไม้ลงมาจากเวที แล้วมาเจอกันหน้าเค้ก พอคุณพ่อส่งเอให้แฟนแล้ว เราก็เดินขึ้นไปบนเวที ระหว่างทางเพื่อนบ่าวสาวก็จะโปรยคอนเฟตติให้ค่ะ
ประธานงานเรามีทั้งหมด 3 ท่าน หลังจากที่ท่านขึ้นกล่าวให้โอวาสแล้ว เราก็มอบพวงมาลัยบนเวทีเลยค่ะ เสร็จแล้วก็เป็นช่วงสัมภาษณ์บ่าวสาว โดยเราจะถามคำถามง่ายๆ แค่ 2 คำถาม เพราะไม่อยากให้ใช้เวลาบนเวทีมาก จากนั้นก็ไปตัดเค้ก นำเค้กไปให้ประธานและคุณพ่อคุณแม่พร้อมพวงมาลัย แล้วก็กลับขึ้นเวทีไปโยนดอกไม้ค่ะ
หลังจากเสร็จพิธีการเรียบร้อยแล้ว เอก็จะไปเปลี่ยนชุดเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ช่วงนี้แฟนแอบทำเซอร์ไพรส์ให้ด้วยค่ะ ตอนเอถ่ายภาพอยู่ข้างนอก ทีมรันคิวเขาก็มาพาเอเข้างานให้ไปยืนอยู่หน้าเค้ก แล้วแฟนกับเพื่อนๆ ก็เต้นเพลง Marry You ของ Bruno Mars พอจบเพลงเขาก็มาคุกเข่าให้ดอกไม้เอ
การทำเซอร์ไพรส์นี้เหมือนเป็นการแสดงเปิดฟลอร์ไปในตัว เพราะพอเซอร์ไพรส์เสร็จแล้ว เราก็เปิดเพลงต่อเลยค่ะ พวกเจลลี่ช็อตที่สั่งทางโรงแรมไว้ก็เริ่มเอามาวาง พร็อพสำหรับอาฟเตอร์ปาร์ตี้อย่างพวกแหวน ไฟเรืองแสงก็ขนออกมาให้แขกเล่นกันเต็มที่ค่ะ
งานนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง ทำให้เอประทับใจทุกส่วนเลยค่ะ ทีมงานและโรงแรมมืออาชีพมาก เอต้องแต่งหน้าแต่งตัวแทบจะไม่มีเวลาลงมาดูหน้างาน แต่ทุกฝ่ายสามารถประสานงานกันได้ดี มีแค่บางครั้งที่เขาโทรมาขอความเห็นจากเรา แต่ทุกอย่างที่ออกมาคือดี เป็นแบบที่ต้องการ พร้อมยืนสวยได้โดยไม่ต้องมาปวดหัวเลยค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ทำการบ้าน : ไม่ว่าเราจะใช้ซัพพลายเออร์เจ้าไหน เราควรทำการบ้านก่อน บรีฟกับร้านให้ดีว่าอยากได้อะไร เพราะในความเป็นจริง วันงานเราไม่มีเวลาไปนั่งเช็คหน้างานได้เลย
อย่ากังวล แล้วยิ้มจากข้างใน : โดยเฉพาะเจ้าสาว ไม่ต้องคิดมากและอย่าเครียดค่ะ อะไรจะเกิดก็ปล่อยไป เพราะทุกความรู้สึกจะออกมาทางสีหน้า แล้วไปอยู่ในรูปและวีดีโอที่จะอยู่กับเราไปตลอดค่ะ