รีวิวงานแต่งสวยเท่ เก๋ในคอนเซ็ปต์ ThunderStorm @Siam Kempinski Hotel Bangkok

Bride’s Story
            แพร์กับคุณเจ้าบ่าวชอบงานสไตล์มินิมอลค่ะ เราเลือกสถานที่แต่งงานที่ Siam Kempinski Hotel Bangkok (สยามเคมปินสกี้ กรุงเทพ) โดยพยายามเลี่ยงดอกไม้ เลี่ยงอะไรที่ดูเป็นเฟมินีน เริ่มตั้งแต่พรีเวดดิ้งที่เราถ่ายกันโดยมีเรฟจากยุค 50’s-70’s เน้นให้ดูเท่ และเป็นโทนขาวดำ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของงานเราคือ ThunderStorm อันสุดท้ายเลยเป็นการถ่ายพอร์ทเทรตที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก David Bowie เพ้นท์หน้าเป็นรูปสายฟ้า ซึ่งจะถูกนำไปใช้กับจอภาพ ก่อนจะเข้าช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้
           นอกจากนี้เรายังคิดแฮชแท็กที่คล้องไปในทางเดียวกันด้วย ตั้งชื่อว่า #wpthunderstormcolilded ซึ่งเป็นชื่อย่อบ่าวสาว แล้วต่อด้วยโค้ดลับที่เราใช้คุยกันเวลาเท็กซ์ ส่วน Collided สื่อความหมายถึงการควบรวมเป็นหนึ่งเดียว

            สำหรับธีมสี เราเน้นใช้สีเงินและสีน้ำเงิน Navy การตกแต่งใช้ไฟเป็นหลัก ส่วนไอเดียเรื่องพร็อพ จะได้ทีมแพลนเนอร์ (Bride-to-be) มาช่วยดูแลให้ โดยเขาจะแฝงความชอบ คาแร็กเตอร์ และนัยยะทางอาชีพของเราสองคน ซึ่งคือนักบินและแอร์โฮสเตสเอาไว้ ทำให้มีทั้งเมฆที่ใส่ไฟไว้ด้านใน และอุโมงค์ที่จำลองเคบินในเครื่องบิน ส่วนที่เป็นหน้าต่างเขาก็จะเปลี่ยนเป็นจอภาพ ฉายภาพท้องฟ้าสลับกับภาพพรีเวดดิ้ง
            ส่วนอื่นๆ ที่แพร์ช่วยหาเรฟมาให้เพิ่มคือ Backdrop เราดีไซน์กันออกมาให้เล่นกับสายไฟย้อยๆ ตรงพื้น ส่วนการจัดเลี้ยงเราเลือกเป็นแบบค็อกเทล โดยมีเพิ่มซุ้มอาหารญี่ปุ่นเข้าไป รองรับแขกที่มาประมาณ 700 คนได้กำลังดี

            พิธีการเราอยากให้กระชับฉับไว เพราะไม่อยากให้เป็นทางการมาก ความตั้งใจของเราคืออยากจัดงานให้เพื่อนๆ ได้มาสนุกกัน ยิ่งพอมาบวกกับความชอบส่วนตัวของบ่าวสาวที่เราเป็นสายเที่ยว ชอบปาร์ตี้ งานนี้เลยใส่ไฮไลท์สนุกๆ ลงไปเพียบ
            อย่างแรกสุดคือ งานนี้อาฟเตอร์ปาร์ตี้เราจะเน้นไฟทั้งหมด ได้อารมณ์เหมือนงาน ULTRA มีไฟเรืองแสง มีควันพ่น มีจอที่แยกออกจากกันได้ ส่วนน้ำแข็งที่งานปกติอาจจะเป็นรูปหัวใจรูปหงส์ งานของเราก็จะเป็นรูปสายฟ้า แต่เพิ่มความพีคด้วยการดีไซน์รางแหลมๆ ลงไป ไว้ให้เพื่อนๆ มารินวอดก้าดื่มกัน คนนึงริน อีกคนไปอ้าปากรอที่ปลายทาง จะได้ดื่มวอดก้ากันเย็นๆ

Planner’s working process
            (คุณซายน์ Bride-to-be) : คู่ของคุณแพร์กับคุณบอสเป็นคู่ที่มีความชอบชัดเจนมากค่ะ ตอนประชุมกันครั้งแรกเราเริ่มจากการดูบุคลิก และฟังเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก่อน หลังจากนั้นจึงศึกษาสไตล์ของเขาจากกิจกรรมที่ทำ เพลงที่ฟัง รวมไปถึงภาพที่อยู่ใน IG ข้อดีของคู่นี้ที่เวิร์คมากๆ คือรู้ตัวเองว่าชอบอะไร แล้วก็ Say Yes กับทุกอย่างด้วยตัวเขาเอง ไม่ได้ฟังฟีดแบครอบข้างจนรวน
            แรกสุดเราตีโจทย์ออกมาให้งานนี้เป็นงานที่มีลูกเล่น อยากให้แขกที่มารู้สึกเซอร์ไพรส์ จึงจะไม่ได้ใช้สัญลักษณ์ที่ดูจำเจ ไม่มีพาสปอร์ต ไม่มีกระเป๋าเดินทาง ไม่มีรูปเครื่องบิน แล้วพยายามดึงโควตที่มีอินสไปร์ดีๆ ที่พูดถึงชีวิตหรือความรักมาใช้ โดยยึดให้เชื่อมโยงกับคำว่า ThunderStorm

            ภายในงานสิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือจอที่เปลี่ยนได้ทั้งหมด 4 แบบ สามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออกให้เข้ากับไฮไลท์ในแต่ละช่วง ยกตัวอย่างเช่นช่วงเปิดตัว ก็จะใช้ไฟที่พุ่งลงมาให้เข้ากับความเป็น Storm ส่งซีนเด่นให้กับบ่าวสาว ส่วนที่เหลือของห้องก็จะมืด มีแค่แสงจากก้อนเมฆที่ใส่ไฟ ลอยระยิบๆ อยู่ด้านบน
            ส่วนตอนขึ้นเวทีเราก็จะใช้รูปพรีเวดดิ้งบ้าง รูปเดี่ยวบ้าง เปลี่ยนไปตามมู้ดที่เข้ากัน สำหรับพิธีการ เนื่องจากฝั่งเจ้าสาว ที่บ้านจะโมเดิร์นมาก ส่วนฝั่งบ้านเจ้าบ่าว จะมีผู้ใหญ่ที่เป็นข้าราชการอยู่ ดังนั้นเราจึงยึดความต้องการที่ไม่อยากให้เป็นทางการ แล้วทอนความจริงจังลงมา ออกมาเป็นพิธีการที่ไม่มีคล้องพวงมาลัย ไม่มีไชโย ไม่มีมหาฤกษ์ แล้วก็เปลี่ยนจากการตัดเค้กเป็นริมแชมเปญแทนค่ะ

            ความสนุกตบท้ายก่อนเข้าช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ คือช่อดอกไม้ที่สามารถแตกออกเป็น 4 ช่อ ให้เพื่อนเจ้าสาวได้รับถึง 4 คน แต่ที่เซอร์ไพรส์คือ ในช่อดอกไม้นั้นจะมีชื่อหนุ่มผู้โชคดีที่เจ้าบ่าวแอบเขียนไว้ด้านใน แล้วทุกคนก็จะขึ้นมาถ่ายรูป รับของขวัญสุดพิเศษก่อนไปเริ่มปาร์ตี้มันส์ๆ
            สำหรับการร่วมงานกับคุณแพร์คุณบอส ถือว่าเป็นการทำงานที่สนุกมากๆ ค่ะ ยิ่งคุณแพร์ที่เป็นเจ้าสาวฉบับสไตล์ Bride-to-be อยู่แล้ว คือนอกจากจะมีบุคลิกเก๋ๆ ก็ยังเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่ไม่ค่อยเน้นหวาน บวกกับเขาเข้าใจในสไตล์ของ Bride-to-be ทำให้การทำงานครั้งนี้เหมือนเราได้เติมเต็มกันและกันจริงๆ

คุณแพร์แนะนำบ่าวสาว
อย่าเอางานคนอื่นมาเป็นบรรทัดฐาน : เราไม่จำเป็นต้องจัดตามคนอื่นเท่านั้นถึงจะดีค่ะ เอาสิ่งที่เราชอบดีกว่า อย่างของแพร์เองพอใช้สิ่งที่ตัวเองชอบ ผลออกมาคือแฮปปี้มาก
คุมงบประมาณให้ดีๆ : เพราะมันอาจบานปลายได้ สำหรับคนที่มีเวลาในการเตรียมงาน แพร์แนะว่าให้ค่อยๆ ลองดูหลายๆ เจ้า ถ้าชอบเจ้าที่ดีหรือมีชื่อ เราอาจลองใช้เจ้าที่ผลงานใกล้เคียงกันแล้วเซฟกว่าได้