สถานที่แต่งงานเข้าคอนเซ็ปต์ สะดวกกับการจัดงานเอง @ The factory 26
เราอยากได้สถานที่จัดงานแต่งงานที่เป็นลานโล่ง กลางแจ้ง มีต้นไม้ เพราะอยากให้งานไปทางเดียวกับพรีเวดดิ้งที่เป็นแนวป่า เน้นต้นไม้ โทนเขียว รวมถึงสามารถเข้าไปแต่งสถานที่เองได้ ขับรถหาจนมาเจอที่ The factory 26 (เดอะ แฟคตอรี่ ทเวนตี้ซิก) ที่นี่จอดรถสะดวก เข้ากับธีมงาน แล้วยังมีจุดน่าสนใจตรงที่เดิมเป็นโรงโม่ปูนที่เลิกกิจการมาทำร้านอาหาร ทำให้ยังมีหัวรถก่อสร้าง รถบรรทุกเก่าๆ เหลือไว้อยู่ เรารู้สึกว่าตรงนี้มันเด่น เหมาะที่จะเป็นเวทีมาก ชอบ เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ค่ะ
จัดงานแต่งงานเอง ได้แบบตรงใจที่สุด
คอนเซ็ปต์งานเราคือวินเทจการ์เด้น อย่างที่บอกว่าอยากได้งานที่ไปในทางเดียวกับพรีเวดดิ้ง ประกอบกับแพรและแฟนชอบของวินเทจ จึงได้มาเป็นคอนเซ็ปต์นี้ ซึ่งงานของเราไม่ได้จ้างออแกไนซ์ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นงานของเรา ครั้งหนึ่งอยากลองที่จะทำอะไรเอง รวมทั้งรู้สึกว่าถ้าทำเองจะได้งานที่ถูกใจมากที่สุด เลยตัดสินใจทำเองหมดทุกอย่าง ซึ่งก็ได้เพื่อนๆ มาช่วยกัน
ขั้นตอนเตรียมงาน เราเริ่มที่ดูงบว่าโอเคที่จัดประมาณไหน แล้วไปดูสถานที่ที่เข้ากับคอนเซ็ปต์งาน จากนั้นก็ไปหาพร็อพที่ต้องการใช้ ซึ่งมีทั้งหาเองและเช่า จากนั้นก็มาวาดผังของร้าน ดูว่าจะแบ่งโซนแบบไหน จัดวางอะไรตรงไหน และสุดท้ายช่วยกันตกแต่งค่ะ
ตกแต่งสถานที่ให้ถูกใจ เลือกใช้สิ่งที่ชอบ
นอกจากพร็อพสไตล์วินเทจแล้ว ด้วยความที่แฟนแพรชอบเล่นพวกของคลาสสิค ขับรถคลาสสิคอยู่แล้ว จึงนำรถมาเป็นของตกแต่งในงานด้วย ส่วนนี้เราก็ไปลิสต์รุ่นรถที่จะมาจอด โดยเลือกรุ่นที่รู้สึกว่าในไทยมีน้อย แล้วก็แบ่งโซนจอดรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เวสป้า ดูว่าต้องจอดตรงไหนบ้าง มีบ้างที่นำรถไปผสมกับโซนแกลอรี่ เพื่อจะได้มีมุมถ่ายรูปเยอะๆ
สำหรับการตกแต่งในงาน เราทำผังบังคับทางเดินไว้ด้วย ซึ่งเมื่อแขกเข้างานมา เด่นๆ ที่คนจะเห็นเลยคือรถที่จอดอยู่ด้านหน้า จากนั้นก็จะเจอจุดลงทะเบียนที่อยู่ด้านซ้าย ต่อด้วย Backdrop และโซนแกลอรี่ให้คนเดินถ่ายรูป แล้วเป็นทางเข้าที่เราบังคับเข้าออกทางเดียว เราทำเป็นซุ้มเหมือนเข้าค่ายลูกเสือ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าตรงนี้เป็นสถานที่เข้างาน ต้องผ่านซุ้มนี้ คนจะได้ไม่เดินเข้าหลายทางพลุกพล่าน
ภายในงานจะแบ่งเป็นส่วนลานข้างล่างและส่วนบนร้านที่เป็นเพิง ตรงลานข้างล่าง เราเน้นเป็นโซนวัยรุ่น จะไม่มีโต๊ะ มีแค่เก้าอี้กับกองฟางไปตั้ง ตรงด้านหน้าที่สำหรับทำพิธี จะมีแค่วงดนตรีและพวกหัวรถก่อสร้างเป็นฉากหลังแค่นั้น ไม่มีเวทีค่ะ ส่วนตรงโซนด้านบนก็มีเก้าอี้ โต๊ะให้นั่งค่ะ
บิ้วด์บรรยากาศในงาน ด้วยดีเทลเล็กๆน้อยๆ
สำหรับชุดแต่งงานของแพรเป็นเหมือนชุดปาร์ตี้มากกว่า แพรไม่ได้อยากได้ที่มันเว่อร์วัง แค่อยากได้แบบที่รู้สึกว่ามันมีความพิเศษ ซึ่งชุดนี้ใช้ปักมือเป็นกลีบดอกไม้ทั้งชุด มันสวย และคิดว่าไม่เหมือนใคร น่าจะมีชุดเดียวในประเทศ รวมทั้งตรงกับคอนเซ็ปต์งานเราด้วย
ส่วนชุดแขกเราไม่ได้กำหนด แต่ทุกคนจะรู้ว่าจะจัดธีมประมาณนี้ เพราะเราเริ่มจากการออกแบบการ์ด รูปที่ใช้เป็นวาดมือ ใส่ชุดวินเทจ ฟอนต์ทุกอย่างทำเป็นวินเทจหมด แค่เห็นก็จะรู้เลยว่างานเป็นแบบไหน และสำหรับของชำร่วยก็เป็นแนวเดียวกัน เป็นสมุดโน้ตเล็กๆ มีสายหนังที่ใช้รูปการ์ดมาเป็นหน้าสมุด แล้วเขียนชื่อบ่าวสาวเพิ่มลงไป
พิธีการง่ายๆ สบายเป็นกันเอง
ส่วนของพิธีการ เราอยากได้งานที่บรรยากาศสบายๆ เน้นอบอุ่น เป็นกันเอง แบบปาร์ตี้กับเพื่อน ดังนั้นงานเราจึงไม่ค่อยมีพิธีการอะไร ถึงเวลาก็เปิดตัวบ่าวสาวที่ขับเวสป้ามากับแก๊ง รอดซุ้มสามเหลี่ยมเข้าไปจอดในงาน พิธีการมีแค่ให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ 2 ฝ่ายขึ้นมาพูดเป็นประธานให้ แล้วเราก็กล่าวขอบคุณ โยนดอกไม้ เสร็จแล้วเป็นการเล่นเกมจับลัคกี้ดอร์ แจกรางวัลเล็กๆน้อยๆ จากนั้นก็กินข้าว แล้วปล่อยให้ทุกคนปาร์ตี้กับคอนเสิร์ตค่ะ
งานนี้แพรรู้สึกประทับใจแขกและการที่ทุกคนมาช่วยเราจัดงาน แล้วก็รู้สึกภูมิใจมากที่งานผ่านไปด้วยดี และทุกคนชม ชอบ เพราะเราจัดงานเอง ทำทุกอย่างเองหมด
แนะนำบ่าวสาว
จองช่างแต่งหน้าและร้านต่างๆ ต้องเผื่อเวลา : กว่าจะเจอร้านที่ถูกใจเราจริงๆ มันยาก แล้วช่างแต่งหน้าเดี๋ยวนี้คิวแน่นไปถึงปีหน้ากันหมดแล้ว สิ่งที่ควรทำเลยคือการจองช่างแต่งหน้า เลือกชุด สถานที่ โดยควรเผื่อเวลาประมาณครึ่งปีขั้นต่ำค่ะ