รีวิวงานแต่ง ละมุนใจ ด้วยโทนสีขาวและชมพูพาสเทล @ Prince Palace Hotel

Prince Palace Hotel สถานที่แต่งงานบริการครบ เซอร์วิสประทับใจ

       เหตุผลที่ทำให้เราเลือก Prince Palace Hotel (โรงแรมปรินซ์พาเลซ) คือเรื่องอาหาร เราจัดเป็นโต๊ะจีนเลยต้องเมคชัวร์ว่าอาหารอร่อยจริงๆ ทุกจาน เราทั้งคู่ไปคัดเองและมีเชิญญาติผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปชิมก่อนด้วย จนมั่นใจว่า ที่นี่อร่อย 

       นอกจากนี้คือการบริการ ประทับใจตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาดูสถานที่ อย่างเซลล์เข้ามาดูแลเราตลอด จนถึงจบงาน คิดว่าเป็นจุดแข็งของโรงแรมเลย คือเขามีทีมงานที่ดีมาก ไม่ใช่เฉพาะเซลล์แต่รวมถึงพนักงานคนอื่นๆ ด้วย อย่างก่อนวันแต่งเขารอรับของตั้งแต่ฉากตกแต่งไปจนถึงของที่ต้องใช้ในพิธีหมั้น ดูแลให้ทุกอย่าง เพราะวันงานจริงๆ บ่าวสาวจะยุ่งมาก แต่เขาจัดการอะไรให้ได้หมด วันงานเราโฟกัสแค่แต่งหน้าแต่งตัวให้เสร็จ พอออกมา ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วค่ะ 

งานแขกผู้ใหญ่เยอะ เน้นเรื่องอาหารเป็นสำคัญ

       ตอนเช้าเป็นงานหมั้นแบบจีนมียกน้ำชา เชิญแขกประมาณ 80 ท่าน ใช้ห้องเดียวกับงานฉลองแต่กั้น Partition ให้เหลือหนึ่งในสาม ชื่อห้อง Prince Grand Ballroom ค่ะ ห้องนี้บริเวณด้านหน้าจะมีสวนลอยฟ้า ซึ่งเป็นจุดแห่ขันหมาก ตั้งขบวนแล้วสามารถเลี้ยวเข้าห้องได้เลย เราแนะนำให้ใช้จุดนี้ตั้งขบวนขันหมากค่ะ เพราะจะทำให้ได้ภาพสวย บรรยากาศหลากหลาย มีทั้ง Outdoor และ Indoor  

       ส่วนพิธีการเริ่มตั้งแต่หกโมงเช้ารันพิธีมาเรื่อยๆ เรามีออแกไนซ์รันพิธีให้ค่ะ จนถึงเก้าโมงเป็นช่วงรับไหว้ และจะเชิญแขกบางส่วนไปทานอาหารด้วย  

       ช่วงเช้าเราจัดเตรียมเป็นซุ้มอาหารทั้งข้าวมันไก่ ก๋วยจั๊บ บะหมี่ ฯลฯ ต้องบอกอีกครั้งว่าวันงานบ่าวสาวจะยุ่งมากจริงๆ เพราะอยู่ในพิธีและถ่ายรูปร่วมกับแขกจนแทบไม่มีเวลาทานข้าวเลยค่ะ กว่าจะเสร็จงานอาหารคงจะหมดก่อน ซึ่งตรงจุดนี้โรงแรมเขามีเก็บอาหารไว้ให้ แล้วมาเสริฟ์บ่าวสาวทีหลัง จริงๆ ก่อนงานเริ่มเขาก็มีเตรียมไว้ให้นะคะ ยกมาเสริฟ์ตั้งแต่ตีสี่ให้ได้ทานรองท้องก่อน

งานฉลองซาบซึ้ง ธีมสีชมพูพาสเทล

       ส่วนงานฉลองตอนเย็น พอแขกเข้ามาก็จะเจอมาตรการณ์ตรวจ Covid-19 ที่โรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ก่อนค่ะ จากนั้นจะเจอแกลลอรี่ตกแต่งด้วยดอกไม้ และแบ็คดรอป เรื่องตกแต่งเราใช้ทีมโรงแรมค่ะ ขอชมเลยว่าทีมตกแต่งของโรงแรมเขาทำงานได้เร็วมาก และสวยตรงตามแบบที่คุยกันไว้ว่าเป็นธีมดอกไม้ใช้สีขาวและสีชมพูพาสเทล ตอนคุยงานเขามีตัวอย่างมาให้เลือกค่ะ ว่าชอบแบบไหน โทนสีอะไร มีให้เลือกเยอะมากเป็นอัลบั้มเลย

       เรามีจ้างทีมแม่งานรันคิวมาเสริมทีหลังด้วย เพราะรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว (หัวเราะ) เนื่องจากคู่เราเป็นคนเตรียมงานเอง ดูเองทุกอย่าง จริงๆ ถ้างานเป็นแบบ Standard โรงแรมเขาก็มี Staff ให้ แต่เนื่องด้วยงานเราค่อนข้างมีขั้นตอนหลายอย่างและแขกก็เยอะด้วย อันนี้แนะนำให้จ้างทีมข้างนอกเข้ามาซัพพอร์ตค่ะ สมมุติว่ามีปัญหาอะไรหน้างานเราก็ยกให้เขาจัดการได้เลย บ่าวสาวจะได้โฟกัสและเอนจอยกับงานได้อย่างสบายใจ

       ตามกำหนดการงานจะเริ่มตอนหกโมงค่ะ แต่วันงานจริงๆ แขกจะมาเร็ว ซักห้าโมงก็เริ่มกันเต็มหน้างานแล้ว ทีมโรงแรมเขาก็ช่วยดูแลแขก จนบ่าวสาวลงมาก็ถ่ายรูปกับแขก เริ่มพิธีจริงๆ ประมาณทุ่มครึ่ง เราเปิดคลิปงานตอนเช้า คลิปสัมภาษณ์บ่าวสาวก่อนเปิดตัวบ่าวสาวเดินเข้าไปในงาน จากนั้นก็ขึ้นเวทีสัมภาษณ์บ่าวสาว ประธานอวยพร ตัดเค้ก ไหว้พ่อแม่ เอาเค้กไปให้แขก มีรินแชมเปญ แล้วก็ขึ้นมาสัมภาษณ์ก่อนโยนดอกไม้

       พอจบพิธีฉลองช่วงสามทุ่ม ก็เปลี่ยนเป็น After Party ทีมโรงแรมเขาก็เข้ามาเซ็ทห้อง กั้น Partiition อะไรให้เรียบร้อยไม่ต้องคอยบอก ตอนนั้นทีมแม่งานกลับแล้วหลังเสร็จพิธี บ่าวสาวก็ยังถ่ายรูปกับแขกอยู่ เรียกได้พาร์ทที่ทางโรงแรมดูแลไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ตกแต่ง อาหาร เขาทำได้ดีหมด ใช้คำนี้ได้เลยว่า รู้งาน มีประสบการณ์จริงๆ

       สิ่งที่ประทับใจคงต้องบอกว่า เป็นทีมโรงแรม เขาสร้างความสบายใจให้เราได้จริงๆ  ถ้ามีปัญหาอะไรก็จะรู้สึกว่า โอเค เดี๋ยวโรงแรมจัดการให้ (หัวเราะ) วันงานทุกอย่างเป็นไปตามบรีฟ ทีมช่างภาพ หรือทีมรันคิวเขาก็ดีลกับทางโรงแรมได้ราบรื่นไม่มีปัญหาค่ะ 

แนะนำบ่าวสาว

จัดงานแบบโต๊ะจีน ต้องคุมจำนวนแขกให้แม่น : คอนเฟิร์มแขกอีกครั้งก่อนวันงานก็จะดีค่ะ งานเราตอนแรกเชิญแขก 450 คน แต่ก่อนถึงวันงาน 1-2 เดือน เราคอนเฟิร์มกับแขกอีกครั้งว่า มาไหม มากี่คน ซึ่งจำนวนแขกที่มาจริงๆ คือ 570 คน เราเลยขอทางโรงแรมเปลี่ยนห้องให้ไซส์ใหญ่ขึ้น และเพิ่มจำนวนโต๊ะ โชคดีว่าที่เขามีห้องหลายไซส์เลยจัดการได้ไม่มีปัญหา

เซ็ทบัดเจทและคุยกับผู้ใหญ่ให้เรียบร้อย : การแต่งงานเป็นเรื่องของสองครอบครัว คุยกับทั้งสองฝ่ายให้เรียบร้อย อย่างงานเราแขกผู้ใหญ่แขกของพ่อแม่เยอะ ก็จะเน้นเรื่องอาหาร ต้องมีที่จอดรถเยอะ พอกำหนดได้ เราจะก็หาสถานที่และทีมที่เหมาะกับงานเราเจอ