รีวิวงานแต่งข้าราชการตำรวจ พิธีเป๊ะตามระเบียบ เนี้ยบแต่สนุก @ Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit

Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit สถานที่แต่งงาน Modern Luxury มีเอกลักษณ์

       เกริ่นก่อนว่าจันทร์จัดงานแต่งแยกกันสองวัน ครั้งแรกเป็นพิธีหมั้นไทย-จีน

จัดขึ้นช่วงเดือนตุลาที่บ้านเกิดจันทร์ จังหวัดกระบี่ ส่วนงานฉลองมงคลสมรสครั้งล่าสุดนี้ จัดเมื่อเดือน พ.ย.63 ที่ Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit (ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท) ค่ะ

       เหตุผลที่จันทร์เลือกแต่งงานที่นี่มีหลายปัจจัย แต่ส่วนหนึ่งได้มาจากรีวิวใน Sabuy Wedding ซึ่งช่วยจันทร์ได้เยอะมาก โดยข้อมูลที่คนส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันคืออาหารอร่อย จันทร์คิดว่าถ้าอาหารที่นี่อร่อยจริงแขกน่าจะแฮปปี้ ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่เลือกเพราะสถานที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก มีการตกแต่งที่ดูลักซ์ชัวรี ทันสมัย ตลอดจนห้องจัดเลี้ยงยกเพดานสูงทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อเดินเข้าไปภายใน และที่สำคัญเมื่อจัดงานแต่งงานทางสถานที่จะปิดให้ทั้งชั้น ซึ่งเอื้ออำนวยความสะดวกได้มากจริงๆ ค่ะ

เพิ่มฟีลหรูหราด้วยธีมสีน้ำตาล โรสโกลด์และเทาอ่อน

       ตอนจัดงานหมั้นที่ต่างจังหวัด ธีมสีงานหวานสุดๆ ไปเลยค่ะ(หัวเราะ) พอจัดงานครั้งนี้เลยอยากให้โทนสีดูแตกต่างจากงานเดิมจึงเน้นสีน้ำตาล โรสโกลด์และเทาอ่อน เพื่อดรอปความหวานของงานลงมา อีกทั้งจันทร์เห็นว่าเป็นโทนสีที่สุภาพดีด้วย ซึ่ง 3 สีนี้จะถูกสอดแทรกไปทั่วงาน ไม่ว่าจะเป็นสีดอกไม้ สีชุดเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว รวมถึงสีชุดแขกด้วยค่ะ 

       นอกเหนือจากโทนสี ดีไซน์การตกแต่งงาน จันทร์เน้นดอกไม้สดแซมด้วยรูปภาพบ่าวสาวไว้ทั่วบริเวณงาน ประดับตรงผนังด้วยดอกไม้ โต๊ะลงทะเบียนเพิ่มเม็ดคริสตัลให้แวววาวเป็นประกายยามตกสะท้อนกับแสงไฟบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้เยอะไปจึงตกแต่งคริสตัลแค่ด้านนอกของงานค่ะ

       สำหรับความน่าสนใจของงานด้านนอกห้องบอลรูมนั้น นอกจากมี Photo Booth ให้ถ่ายภาพพร้อมรอรับรูปได้เลยที่ขายดิบขายดีแล้ว ยังมีส่วน Flower Walkway ที่แขกก็สนใจไปถ่ายรูปกันมากมาย ส่วนนี้อยู่ขนาบระหว่างทางเดินไปจุด Backdrop ถ่ายภาพและห้องจัดงาน ซึ่งมันไม่ใช่แค่การทำเป็นผนังเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่จันทร์ตั้งใจทำเพื่อบัง Open Kitchen ที่มีอยู่ด้านนอกด้วยค่ะ แขกจะไม่เห็นว่ามีมุมทำอาหาร ตกแต่งเหมือนเป็นพาร์ทิชั่นช่วยแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ลดการกวนสายตาได้ดีอีกด้วย

       สำหรับภายในห้องบอลรูมก็เน้นงานประดับดอกไม้เพียงอย่างเดียว เพราะอยากให้บรรยากาศมีความหรูหรา แต่แฝงไว้ด้วยความเรียบง่ายเช่นกัน 

       ส่วนอาหารมีจัดทั้งด้านในและด้านนอกห้องจัดเลี้ยง เพื่อไม่ให้ภายในห้องดูแออัด ซึ่งจันทร์จัดงานเลี้ยงในรูปแบบค็อกเทล แต่จะมีจัดโต๊ะ VIP เพื่อรองรับแขกผู้ใหญ่ประมาณ 12 โต๊ะ และสำหรับเมนูอาหารก็มีทั้งหนักเบา และมีซุ้มอาหารเพิ่มมาต่างหาก 7 ซุ้ม โดยเรายังคงเน้นมาตรการป้องกันและควบคุมดูแล COVID19 เพื่อความปลอดภัยต่อสุขอนามัย มีการปรุงสุกตลอดเวลาและมีภาชนะปิดไว้เพื่อความสะอาดด้วยค่ะ

พิธีการตามระเบียบ ถึงจะเนี้ยบแต่สนุก

       ต้องบอกก่อนว่าเจ้าบ่าวเป็นข้าราชการตำรวจ จึงมีพิธีรีตองที่ทางการและยืดยาวหน่อยค่ะ(หัวเราะ) โดยกำหนดการจะเริ่มหกโมงกว่าที่จันทร์และเจ้าบ่าวมายืนรอรับแขก ณ จุด Backdrop ถ่ายภาพ แต่เนื่องจากงานนี้ มีแขกมาเป็นจำนวนมากประมาณ 700 ท่าน จึงทำให้เราสองคนใช้เวลาถ่ายภาพนานหน่อย 

       แต่ก่อนที่แขกจะมาถ่ายภาพร่วมกันนั้น แขกจะลงทะเบียนและได้ของชำร่วยเป็นธนบัตรในหลวง ร. 9 ที่จันทร์ได้ไอเดียนี้มาจากการล้อไปกับชื่อเล่นเจ้าบ่าวที่ชื่อแบงค์ ส่วนชื่อของจันทร์จะทำกราฟิกเป็นพระจันทร์ยิ้มเสี้ยวเล็กๆ อยู่บนแพ็กเกจค่ะ

       จบจากการถ่ายรูปร่วมกับแขกที่หน้า Backdrop ก็เริ่มพิธีการด้วยการเปิด VDO Present งานหมั้นที่ต่างจังหวัด จบแล้วถึงเปิดตัวบ่าวสาวเดินเข้าห้องผ่านเพื่อนบ่าวสาวที่ยืนยิงเปเปอร์ซู้ต กระทั่งขึ้นบนเวทีก็จะมีประธานมากล่าวอวยพร และเปิด VDO Present ที่เป็นที่มาว่าเราพบกันได้ยังไง คอนเซ็ปท์ทำเหมือนหนังตลก เอาฮาน่ะค่ะ (หัวเราะ)

       เมื่อเสร็จพิธีนี้ก็เป็นช่วงสัมภาษณ์บ่าวสาว กล่าวขอบคุณแขก จากนั้นเราสองคนก็เดินลอดซุ้มกระบี่เพื่อไปตัดเค้กที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องและเดินกลับมาบนเวทีเพื่อนำเค้กไปให้คุณพ่อคุณแม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว 

       ต่อจากนั้นก็เป็นพิธีการสำคัญเลยคือต้องให้เพื่อนร่วมรุ่นนายร้อยตำรวจ ซึ่งเยอะมากจนเวทีแน่นเลยค่ะ(หัวเราะ) ขึ้นมาบนเวทีร้องเพลง 'ขวัญดาว' เนื่องจากเป็นธรรมเนียมในการต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวนักเรียนนายร้อยตำรวจ พอจบเพลงถึงโยนดอกไม้ 

       และปิดท้ายงานด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ที่แม้จันทร์และเจ้าบ่าวจะแว้บไปเปลี่ยนชุด แต่ก็ไม่มีช่วง Dead Air เลยค่ะ เนื่องจากได้มีการแจกพร็อพสำหรับอาฟเตอร์ปาร์ตี้เพื่อสร้างสีสันให้แขกร่วมสนุก เช่น แท่งโฟมกระพริบ แว่นตา LED แท่งไฟ แหวนและกำไลเรืองแสง เป็นต้น ขณะเดียวกันวงดนตรีก็เล่นไปด้วย โดยไม่ได้รอบ่าวสาว เพราะจันทร์อยากให้แขกได้รีแลกซ์จากช่วงพิธีการที่อัดแน่น อีกทั้งตัวแขกเองก็พร้อมสังสรรค์เต็มที่อยู่แล้วด้วยค่ะ

       ความสุขของแขกและการช่วยเหลือของทีมงานคือความประทับใจที่นึกทีไรยิ้มได้ทุกครั้ง จันทร์ประทับใจหลายอย่างมากเลย แต่ถ้านึกได้ก็คงจะเป็นเรื่องทีมซัพพลายเออร์และการบริหารจัดการของโรงแรมที่บริการดีกว่าที่คาดหวัง ยามเกิดปัญหาเฉพาะหน้าทางโรงแรมแก้ปัญหาได้ทันท่วงทีและมีความเป็นมืออาชีพ Wedding specialist ช่วยเหลือเต็มที่ ส่วนอาหารก็สมกับรีวิวใน SabuyWedding บอกไว้เลย แขกทุกคนชอบมากและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อาหารอร่อยค่ะ 

       ส่วนความประทับใจต่อมาคือแขกทุกท่านที่สละเวลามางานแต่งของเรา แม้ว่าช่วงนั้นจะมีงานแต่งชนกันหลายงานและสถานการณ์หลายๆ อย่างไม่ค่อยเอื้ออำนวย จนตอนแรกเราแอบใจแป้วและคิดไปเองแล้วว่าแขกคงมาไม่เยอะ แต่พอเห็นจำนวนแขกที่มาจริงๆ ก็ดีใจมากเลยค่ะ มาเยอะกว่าที่คิดไว้และส่วนใหญ่ก็อยู่จนจบงาน มีเพื่อนมาบอกจันทร์ด้วยว่าไปงานแต่งมาหลายงาน งานเราคนอยู่ถึงช่วง After Party เยอะสุดแล้ว จันทร์เลยอยากขอบคุณทุกคนที่มามีความสุข สนุกร่วมกันและแสดงให้เห็นว่ามีคนรักเรามากเหมือนกันค่ะ

แนะนำบ่าวสาว

ต้องมีแผนสำรอง : ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ควรมีแผนสำรอง และทำการบ้านให้เยอะ หา Reference ให้ชัดเจนว่าอยากให้งานออกมาเป็นแบบไหน ถ้าภาพชัด ก็จะง่ายกับทุกๆ ฝ่าย และอะไรที่เราพอทำได้ก็ทยอยทำไปก่อน เช่น หาข้อมูลเพื่อลดอุปสรรคและปัญหาระหว่างการจัดงาน พอสถานการณ์ดีขึ้นก็ค่อยมาเก็บตกส่วนที่ทำได้ 

ใช้ทีมงานมืออาชีพ : ให้เลือกทีมงานที่มีประสบการณ์ ผ่านงานมาเยอะ ไว้วางใจได้ เพราะเขาจะต้องเป็นคนรันงานให้เราทั้งหมด หากได้ทีมงานดี ดูแลงานเราอย่างเต็มที่จะช่วยให้เบาใจได้ค่ะ

ปล่อยวางและโฟกัสกับความสุขตรงหน้า : ถ้าโฟกัสแต่ส่วนที่ผิดพลาดของงาน ตรงนี้มันส่งผลต่อจิตใจได้มากเหมือนกันนะคะ ดังนั้นทัศนคติการปรับมุมมองก็มีส่วนสำคัญ ถ้าถึงวันงานแล้วอยากให้ปล่อยวาง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เปลี่ยนโฟกัสความผิดพลาดมาโฟกัสกับความสุขตรงหน้าดีกว่า เพราะมันเป็นช่วง Once in a life time ควรเป็นวันที่ดีและน่าจดจำมากที่สุดค่ะ

Photo : Brilliantday Photography / mwgame