งานฝรั่งในวังไทย @วังจักรพงษ์
งานของต๊อบ เราจัดเป็นแบบพิธีฝรั่งใน วังจักรพงษ์ (Chakrabongse Villas) ค่ะ ที่เลือกสถานที่แต่งงานที่นี่ เพราะว่าไม่อยากจัดในห้องบอลรูมให้ดูเป็นทางการมาก และโชคดีด้วยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ซีเรียส เลยสามารถจัดงานเล็กได้อย่างที่ต้องการ สมกับเรฟเฟอร์เรนซ์ในใจสมัยเด็ก ที่เคยดูหนังแต่งงาน แล้วเขาจัดกันตรงเอ้าท์ดอร์ พอบวกกับตัวสถานที่ที่ก็สวยอยู่แล้ว โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปปรับเปลี่ยนอะไรมาก ก็เลยลงตัวเลย แค่เติมดอกไม้เข้าไปก็เริ่ดแล้วจริงๆ
สำหรับการจัดงานในพื้นที่วังครั้งนี้ ต๊อบโชคดีมากๆ ที่ได้ออแกไนเซอร์ที่ดีด้วย (ซึ่งทีมงานของวังจักรพงษ์ ก็เป็นผู้แนะนำให้อีกทีค่ะ) เพราะเวลาเราเข้าไปจัดงาน เขาจะมีให้เราแต่เฉพาะตัวสถานที่ นอกเหนือจากนั้นเราต้องเอา Outsources จากข้างนอกเข้าไปหมด แล้วก็ต้องเป็นเจ้าที่เข้าได้ตามข้อกำหนดของวังอีก ซึ่งทีมที่ต๊อบเลือกมา เขาก็ช่วยเราได้เยอะมากจริงๆ ทั้งจัดการ ประสานงาน แล้วก็ตกแต่งทุกอย่าง ที่สำคัญคือเขาได้ภาษาอังกฤษด้วยค่ะ เวลานัดคุยกันกับคุณเจ้าบ่าวซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย ก็เลยเข้าใจกันได้หมด ไม่ต้องมานั่งแปลอีก
เรื่องพิธีการ เราก็มีซ้อมกันก่อนจะถึงวันจริงด้วย โดยจะมีเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวมากันฝั่งละ 10 คน แล้วก็จะมีหัวหน้าเพื่อนเจ้าบ่าว หัวหน้าเพื่อนเจ้าสาว ที่มาช่วยงานเราอีก เราจะบรีฟไปว่าฝ่ายไหนจะยืนซ้ายยืนขวา คนไหนเดินก่อน คนไหนรับดอกไม้ คนไหนทำอะไร คือทุกคนจะมีสเต็ป มีหน้าที่ของตัวเองหมด แล้วยิ่งในวันงาน เราได้หลานคุณเจ้าบ่าวมาเป็นฟลาวเวอร์เกิร์ลโปรยดอกไม้ให้ด้วย น่ารักมากๆ เพราะพอถึงเวลาจริงเขาไม่ได้ใช้วิธีโปรย แต่คอยหยิบแจกทีละกลีบๆ ให้ทุกคนเลย เป็นสีสันอีกอย่างหนึ่งของงาน และพอเข้าช่วงพิธีการจริง เราก็มีการพูดและสวมแหวนกันตามปกติเลย
ในส่วนของการตกแต่งในจุดนี้ เราได้ใช้มุมทางเดินโค้งแบบฝรั่งของทางวังที่มีอยู่แล้วเป็นทุนเดิมค่ะ เพียงแค่นำกระถางดอกไม้ออก ตั้งเทียนประดับ แล้วก็แซมดอกไม้ขึ้นไปด้านบนหน่อย ก็สวยขึ้นมาเลยค่ะ ส่วนตัวต๊อบเองอยากได้เก้าอี้สีขาว ให้แขกได้นั่งกันในร่มเงาของซุ้มด้วย ก็เลยจัดเซ็ตติ้งไว้ตรงนั้นทั้งหมด แล้วก็มีพรมทางเดินที่มีโลโก้สีทองอยู่ตรงสุดทาง สกรีนอันใหญ่ๆ ให้เห็นกันชัดๆไปเลยค่ะ
คุมโทนสีขาวเขียวสุดคลาสิก
จะเห็นได้ว่าภาพรวมของงานนี้จะเน้นไปที่ดอกไม้ที่เป็นของจริง เลือกเฉพาะที่เป็นดอกขาวแซมด้วยใบเขียว ส่วนชุดเพื่อนเจ้าสาวก็เป็นสีเทา รายละเอียดพวกการ์ดเชิญ เราก็คุมโทนขาวเขียวทองด้วยเหมือนกัน โดยที่หน้าซองจะเขียนด้วยมือ เพราะงานเราแขกไม่ถึงร้อยคน เป็นงานเล็กๆ อบอุ่นกำลังดี ส่วนของชำร่วยเป็นถุงใส่ไวน์ เพราะว่าเจ้าบ่าวชอบดื่มไวน์อยู่แล้ว มีสกรีนโลโก้ มีโควตติดอยู่ เขียนประมาณว่าความรักก็เหมือนไวน์ ยิ่งบ่มนานก็ยิ่งดี แล้วก็มี Since 2009 ซึ่งเป็นปีที่เจอกัน
พักเบรกที่ไม่เหมือนใคร
พอหมดจากช่วงพิธีการ เราก็จะมีพักเบรกกันนิดนึง ก่อนจะถึง Sit-down dinner ในช่วงเย็นค่ะ ระหว่างนี้แขกสามารถเลือกได้ว่าจะไปล่องเรือชมวิว หรือจะดื่มเบียร์ ทานคานาเป้รองท้อง คลอด้วยเพลงป๊อปบรรเลงไปเพลินๆ ก่อน
พวกเรื่องการจัดที่นั่งก็สำคัญค่ะ ต๊อบลงไว้ว่า ให้แขกคุณเจ้าบ่าวที่บินมาจากออสเตรเลียได้นั่งตรงเอ้าท์ดอร์ริมน้ำ เสริมบรรยากาศให้เขารู้สึกผ่อนคลาย และได้เห็นภาพที่แปลกใหม่ ส่วนแขกผู้ใหญ่เราก็ให้นั่งอินดอร์ หลังจากนั้นก็จะมีสปีช ซึ่งถือเป็นช่วงเรียกน้ำตาเลยค่ะ
ช่วงที่พีคที่สุดของงานอีกอย่างคือ ตอนที่คุณเจ้าบ่าวทำเซอร์ไพรส์ด้วยการไปเรียนภาษาไทยมาค่ะ วันงานเขาจะมีสปีช ซึ่งในนั้นจะมีภาษาคาราโอเกะคำไทยที่เขาตั้งใจท่องจำอยู่ ขนาดต๊อบเองตอนแรกไม่ได้เตรียมสปีชมา แต่ตอนพูดจริงอารมณ์ก็พาไปเอง เป็นช่วงเวลาที่ซึ้งมากจริงๆ
หลังจากนั้นเราก็ตัดเค้ก เป็นเค้กสามชั้นจาก Bake ministry ของจริงทั้งหมด ประดับด้วยน้ำตาลปั้นรูปดอกไม้ค่ะ ปิดท้ายด้วย First Dance ซึ่งตอนแรกต๊อบกังวลเพราะต๊อบเต้นไม่เป็น กะว่าจะตัดซีนนี้ออก แต่คุณเจ้าบ่าวบอกง่ายจะตาย แค่เต้นตามผมมาเลย เต้นไปด้วยกัน น่ารักมากๆ เลย
แนะนำบ่าวสาว
ภาพที่อยากได้ต้องชัด : ยิ่งเรามีภาพที่เคลียร์มากเท่าไหร่ สามารถบอกได้ว่าตัวเองอยากได้แบบไหน (โดยที่ไม่ใช่เป็นแค่คำนามธรรมฟุ้งๆ) ออแกไนซ์เขาก็จะยิ่งจัดการให้เราได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้นค่ะ อย่างของต๊อบต๊อบมีภาพทุกอย่างให้เห็นหมด จะชุด แบ็คดรอป จุดลงทะเบียน ขนาดช่อดอกไม้เราก็ยังคิดกัน แยกย่อยไปให้ชัดเจน ทุกอย่างจะออกมาได้ตรงใจ และรวดเร็ว
ก่อนแต่งงานต้องสมัคร Pinterest : แนะนำสุดๆ เลยค่ะ เพราะในนั้นมีทุกอย่างจริงๆ เวลาเสิร์ชหัวข้อไปก็จะมีดีเทลอื่นๆ ขึ้นมา สามารถเลือกแนว เลือกโทน เลือกอารมณ์ที่ละเอียดลึกลงไปได้ พวกธีมงานแต่งงานเราก็หาได้จากในนี้ค่ะ ถือเป็นแหล่งร่วมไอเดียเลย ทุกส่วนของงานต๊อบได้ไอเดียจากที่นี่จริงๆ (หัวเราะ)