สถานที่แต่งงาน Outdoor สวยๆ ไม่ต้องพึ่งสวน
เรื่องโลเคชั่นสถานที่แต่งงาน จริงๆ แล้วแน๊ตไม่อยากได้ในห้องบอลรูม หรือว่าจัดในโรงแรมค่ะ พยายามหาเป็นร้านอาหารไปเลยมากกว่า แต่ติดที่ถ้าจัด Outdoor ตอนเย็นๆ แล้วยุงจะเยอะ พอไปเจอที่ Hansar Hotels & Resorts (หรรษา โฮเต็ล) ก็เลยคิดว่าน่าจะลงตัวพอดีเลยล่ะ เพราะสถานที่จัดอยู่ชั้น 19 ยุงตามไปไม่ถึงแน่ๆ แล้วเขายังได้รับรางวัล 5 ดาวจากการประกวดโรงแรม Boutique อีก เรื่องเดียวที่อาจจะยังไม่เป๊ะเท่าไหร่คือเรื่องประสบการณ์การจัดงานแต่งงานของเขาค่ะ เพราะสำหรับแวดวงเวดดิ้งเขาก็ยังถือว่าค่อนข้างเป็นมือใหม่อยู่ แต่พอช่วยๆ กันแล้ว ทุกอย่างก็ออกมาโอเค แถมอาหารของทางโรงแรมก็ยังอร่อยมากๆ เลย เพื่อนๆ ชมหมดว่าเมนูฝรั่งดีงาม อาหารไทยก็รสจัดถูกปากผู้ใหญ่จริงๆ
จัดงานหมั้นสบาย สไตล์ชิลล์ๆ
พิธีการในช่วงงานหมั้นของแน๊ตเป็นแบบฟรีสไตล์เลยค่ะ เพราะว่าบ้านเราทั้งบ่าวสาวเป็นคนชิลล์ๆ ด้วยกันทั้งคู่ เลยจัดเป็นแบบพิธีผสม จริงๆ ตามความตั้งใจแรก เรากะจะให้มีแค่ช่วงยกน้ำชาอย่างเดียวด้วยค่ะ แต่พอเวลาผ่านไปก็อยากให้มีกั้นประตูด้วย (หัวเราะ) เพื่อนๆ จะได้มาร่วมพิธีกันแบบสนุกสนานเอนจอยหน่อย สรุปไทม์ไลน์เลยเป็นเริ่มแห่ขบวนขันหมากกันตอน 4 โมงเย็น เน้นฤกษ์สะดวก แล้วก็มีกั้นประตู ยกน้ำชา สวมแหวน ซึ่งแขกทุกคนก็แซวกันใหญ่ ว่านี่เป็นงานแรกเลยที่จัดในช่วงเวลาที่พีคสุดๆ คือจัดตามใจอยาก (หัวเราะ) ส่วนของรับไหว้จะเป็นใบชา ซึ่งเพื่อนของแน๊ตมาช่วยออกแบบทั้งกล่องใส่ชา แล้วก็กล่องใส่ของรับไหว้ด้านนอกเลย พวกสติกเกอร์อะไรนี่ก็ฝีมือเขาหมดเหมือนกัน
และเนื่องจากเราไม่ได้จ้างออแกไนซ์ ดังนั้นการตกแต่งและรันงานทั้งหมด ต้องยกเครดิตให้เพื่อนๆ ของแน๊ตเลยค่ะ โชคดีที่ทุกคนจบด้านศิลป์ๆ มา และมีความอาร์ตอยู่ในตัวอยู่แล้วด้วย องค์ประกอบอะไรเลยออกมาได้โอเคไปหมด อย่างพร็อพที่เห็นเป็นป้าย Mr. & Mrs. อันใหญ่ๆ อันนั้นเพื่อนแน๊ตก็เป็นคนช่วยทำให้ แล้วก็เล่นกับธีมสีเอา นั่นคือกรมท่า ทอง และชมพูค่ะ
ไอเดียหลายอย่างเราได้มาจากการดู Pinterest บ่อยๆ ค่ะ อย่างดอกไม้ส่วนที่เหลือใช้จากการตกแต่งหลักๆ เพื่อนแน๊ตคนที่มีประสบการณ์ด้านการทำอีเว้นท์ เขาก็จับเอามาแฮงค์หัว ตกแต่งด้านบนของงานได้อีก หรืออย่างพวกแจกันที่ใช้ในงาน เราก็ปรับมาจากขวดไวน์แล้วนำมาพ่นสเปรย์สีดำกับทอง ได้เป็นของตกแต่งเก๋ไก๋ที่ไม่เหมือนใคร และทำง่ายมากๆ เลย
เปิดตัวน่ารักๆ ด้วยทางเดินไฟเย็น
สำหรับช่วงซีนเปิดตัว เราขอให้แขกช่วยจุดไฟเย็น แล้วก็วิ่งลอดผ่านไฟกันไปน่ารักๆ ค่ะ แต่ประเด็นคือ อาจจะต้องวิ่งเร็วหน่อย เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม แต่เอาเข้าจริงๆ แน๊ตแอบกระซิบว่าไม่แนะนำเลย นี่มาคิดย้อนกลับไปก็ยังแอบกังวลอยู่ คือมันอันตรายจริงๆ ค่ะ ถ้าคิดจะใช้ต้องระวังมากๆ และหายี่ห้อที่คุณภาพดีสุดๆ ที่สำคัญคือควันขโมงมาก ทุกคนขำ บอกเหมือนโกโบริกับอังศุมาลินวิ่งหลบระเบิด ไร้ซึ่งความโรแมนติก (หัวเราะ)
ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าในงานเราไม่มีภาพพรีเวดดิ้งด้วยค่ะ ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะว่า เราคบกันมานานเกือบ 9 ปีได้ เลยไม่ได้ออกแนวสวีทจ๋า แต่จะดูเป็นอารมณ์แบบเพื่อนกันมากกว่า แม้แต่ของชำร่วยเอง เราก็ออกแบบให้เป็นปฏิทินคลีนๆ เลยค่ะ แขกจะได้เอาไปใช้ได้จริงๆ แบบไม่ต้องเห็นหน้าเราตลอดปี แต่แค่ทำวงกลมไว้ตรงวันงานแต่งเราแค่นั้นพอ อันนี้คุณเจ้าบ่าวเขาเป็นคนออกไอเดียเองเลย
ไฮไลท์ของงานนี้ จะอยู่ที่การเล่นเกมส์ค่ะ บ่าวสาวจะเป็นพิธีกรกันเอง แล้วจะมีการจับไพ่ขึ้นมา หลังจากนั้นก็คัดคนออกตามกฎที่ไพ่นั้นๆ บอก เช่น ใครน้ำหนักน้อยกว่า 60 คนนั้นตกรอบ แล้วคัดออกเรื่อยๆ จนเหลือ 8 คนสุดท้าย ใครชนะก็จะได้ล็อตเตอรี่ไป ให้เอาไปลุ้นกันเองอีกต่อนึง
นอกจากนี้ เรายังมีเกมส์อื่นๆ ให้ร่วมสนุกกันอีกค่ะ เช่น เกมส์ปิดตาเจ้าสาว แล้วให้ไปจับมือเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าบ่าว แล้วต้องทายให้ถูกว่าคนไหนคือเจ้าบ่าวตัวจริง หรือให้พิธีกรถามคำถามแล้วบ่าวสาวหันหลัง และตอบคำถามให้ตรงกัน สนุกมากๆ เลย อีกเกมส์ที่ทุกคนกล่าวขานกันมากคือ ให้เจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาว ซึ่งที่จริงคือไม่มีทางอุ้มขึ้นแน่ๆ ค่ะ เพราะแน๊ตน้ำหนักเกือบเลข 7 ผลคือเราเลยล้มกันลงไปหมด แต่แน๊ตแฮปปี้ เพราะเหมือนเราได้เอ็นเตอร์เทนต์แขก แขกเองก็มีความสุข เพราะเราได้เฮฮา และหัวเราะร่วมกันจริงๆ ไม่ต้องห่วงสวย Keep look ตลอดเวลา
ตอนแรกที่แน๊ตจะจัดงาน แน๊ตเองก็คิดว่า มันน่าจะต้องเครียด และกดดันมากๆ แน่ๆ แต่พอมาทำจริงปรากฏว่า แน๊ตเซอร์ไพรส์มาก เพราะเราไม่คิดเลยว่าเราจะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ขนาดนี้ สามารถสนุกได้เต็มที่จริงๆ บอกตัวเองตลอดเลยว่าให้ทำเป็นเหมือนจัดงานปาร์ตี้วันเกิดแล้วกัน เหมือนเราเป็นเจ้าของวันเกิด แล้วเราเชิญแขกมา จัดงานเล็กๆ อบอุ่นๆ ที่เราเอาอยู่ก็พอ จะได้ฟินทั้งบ่าวสาวและแขกที่มาร่วมงาน
แนะนำบ่าวสาว
ห้ามกลายร่างเป็น bridezilla เด็ดขาด! : เพื่อนแน๊ตจะคอยบอกแน๊ตตลอดเลยค่ะ ว่าไม่ต้องเครียด เพราะวันนั้นเอาเข้าจริงๆ จะมีแค่บ่าวสาวเท่านั้นแหละที่จำได้หมดทุกรายละเอียด ดังนั้นชิลล์ๆ ไปเถอะ
จดทุกอย่างออกมา และเชื่อตัวเองให้มากที่สุด : ถ้าแน๊ตย้อนเวลากลับไปได้ แน๊ตจะกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่า ตัวเองอยากได้อะไรบ้าง และเขียนออกมาให้เป๊ะๆ ทั้งหมด ไม่ว่าจะหน้าผม ชุด หรือตัวงานแบบไหน เพราะเราย่อมรู้จักตัวเราเองดีที่สุด ดีกว่าไปฟังคนอื่น อย่างของแน๊ตเอง ตอนแรกแน๊ตก็ไม่อยากได้ชุดเจ้าสาวที่ดูเจ้าสาวจ๋า อยากได้แค่เดรสสีขาวธรรมดา แต่พอเราเจอเพื่อนหลายๆ คน บางคนก็คอมเม้นท์ว่าเดี๋ยวไม่เด่น เดี๋ยวไม่สู้แขก เราก็หลงทิศไปอีก จนสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้เป็นตัวเราจริงๆ ค่ะ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Hansar Hotels & Resortsช่างภาพ วิดีโอ:
Wheneverlove Photography