ปาร์ตี้งานแต่งในสวน @The 66 Cottage
ฝนกับเจ้าบ่าวคุยกันว่าเราอยากได้งานแต่งในสวน อารมณ์ปาร์ตี้กับเพื่อน และญาติๆ จนได้ไปเจอสถานที่แต่งงานที่ The 66 Cottage (66 คอทเทจ) อยู่ใกล้บีทีเอส พอดีกับจำนวนแขกประมาณ 100 คนของเรา มีกำแพงต้นไม้ล้อมรอบ ฝนเองก็ไปเห็นงานของบ่าวสาวคู่นึงที่ทาง Primmrose Wedding Planner เคยจัดให้พอดี ก็เลยคิดว่าน่าจะเวิร์คเลย ตัดสินใจเลือกทันที (หัวเราะ)
วินเทจในโทนม่วง
เรื่องโทนสี ฝนชอบสีขาวเขียว แต่อยากให้มีเด่นขึ้นมาอีกสีหนึ่ง เราไม่ชอบให้ดูหวานจ๋า แต่สามารถแม็ตช์กับการ์ดแต่งงานสีน้ำเงินปนกลิตเตอร์ของเราได้ เลยลงตัวที่สีม่วง ภายในงานตกแต่งด้วยดอกไม้โทนม่วงสไตล์วินเทจ มีการสร้างสะพานเล็กๆ ขึ้นมาเพิ่ม เราใช้มุมนั้นสำหรับโยนดอกไม้ แล้วก็มีพร็อพอีกหนึ่งอย่างที่ฝนเตรียมมาเอง คือตู้ Telephone Box ที่เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่าเป็นสไตล์อังกฤษ ได้อารมณ์สมจริงขึ้นมาอีกระดับ เพราะขนาดเท่ากับของจริงเลยค่ะ
ดีเทลอื่นๆ ที่ฝนชอบในงานคือแบ็คดรอป มันสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ มีแจกันดอกไม้อันใหญ่มาตั้งไว้เพื่อให้ดูมิติมากขึ้น การจัดโต๊ะ Dining ของทีมแพลนเนอร์ก็ดีงามมาก เราพยายามชูโรงสีขาวม่วง เขาก็ช่วยปูผ้าขาว แล้วประดับดอกไม้ม่วงให้ Table Runner ที่เป็นแถบยาวปูกลางโต๊ะก็เป็นสีเงินด้วย ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก แถมยังมีโดมสำหรับวางเค้กอีก ถูกใจไปทุกอย่างเลยค่ะ
งานแต่งที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่นให้ทุกคนเป็นตัวเองได้
แขกส่วนใหญ่จะชมเราเรื่องธีมสี เพราะเราเปิดกว้างมาก ชุดเพื่อนเจ้าสาวก็ให้ใส่สีดำมาได้ เพราะเรารู้สึกว่าสีดำคือสีที่อมตะ ขลัง แล้วก็ให้เกียรติจริงๆ เป็นสีที่ไม่ซ้ำใคร ช่วยขับให้ภาพรวมยิ่งดูสวยขึ้นอีก คอนเซ็ปต์ของเราที่เป็นแบบวินเทจ เราบอกเลยว่าจะวินเทจแบบไหนมาก็ได้ จะฝรั่ง ไทย ใส่สไบ นุ่งโจงกระเบน ได้หมด แขกฝรั่งของเจ้าบ่าวก็จะได้เห็นด้วยเหมือนกัน ตอนมานั่งย้อนดูรูปนี่รู้สึกสนุกมากเลย
ใส่ใจในเมนูที่แขกไทยเทศก็ชอบ
ช่วงระหว่าง Reception เราเปิดเพลงแบบ Old Jazz คลอไปเรื่อยๆ ส่วนเรื่องการจัดเลี้ยงเราก็ให้ความสำคัญเหมือนกันค่ะ พยายามเลือกให้หลากหลาย แบบที่แขกไทยก็ทานได้ และแขกเทศก็น่าจะชอบ ดังนั้นในงานก็จะมีซุ้มอาหารประเภทซูชิบาร์ มียำ มีข้าวหน้าเป็ด สำหรับจัดมาเอาใจแขกไทยโดยเฉพาะ แล้วก็มีซุ้มไก่ง่วง สำหรับเอาใจแขกฝรั่งด้วย
งานนี้เรามีโชว์พิเศษจากเพื่อนมหาลัย เป็น Special Dance ที่ดีมาก แล้วประเด็นคือมันไหลไปเป็น Flow มากๆ พอเพื่อนเริ่มเต้น เพื่อนก็ลากเราไปเต้นด้วย สักพักไปๆ มาๆ เจ้าบ่าวก็มาร่วมแจม เลยกลายเป็นเหมือนการเปิดฟลอร์ไปเลย สนุกกันเต็มที่จริงๆ
สำหรับบ่าวสาวคู่ไหนที่จะจัดงานแบบฝน ที่มีแขกหลายสัญชาติ ฝนแนะนำว่าพิธีกรควรจะพูดได้สองภาษานะคะ แล้วใครที่อยากจัดงานแบบเน้นปาร์ตี้ วงดนตรีก็สำคัญมาก เพราะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้งานออกมาสนุกและมันส์จริงๆ อย่างของฝนนี่ใช้แบบฟูลแบนด์เลย ภาพที่ออกมาเลยเกินความคาดหมายจริงๆ ตอนมาทุกคนมาด้วยส้นสูง ตอนจบกลายเป็นชุดไทยรองเท้าผ้าใบเฉย (หัวเราะ) แต่โดยรวมแล้วฝนแฮปปี้กับทุกอย่างมากเลยค่ะ เพราะขนาดเพื่อนฝรั่งก็ชมเลยว่านี่เป็นงานแต่งงานที่ดีที่สุดงานหนึ่งเท่าที่เคยไปมาเลยนะ
แนะนำบ่าวสาว
ให้ความสำคัญกับเรื่องบัดเจทมากๆ : เพราะการแต่งงานมันเหมือนกับการซื้อบ้านเลยค่ะ งบมันจะบานขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่จริงทุกอย่างมันแพลนได้ และค่าใช้จ่ายก็ไม่จำเป็นต้องสูงเสมอไปด้วย เดี๋ยวนี้การจัดงานมันอยู่ที่ไอเดีย การวางแผน และทีมงานที่เราร่วมงาน ว่าเขาจะสามารถเข้าใจสิ่งที่เราต้องการและทำให้มันออกมาอยู่ในงบได้มากแค่ไหน ซึ่งจุดนี้ก็ต้องอ่านรีวิวเยอะๆ และเลือกเจ้าดีๆ มาใช้บริการค่ะ
เลือกหาเองทุกอย่างได้ของถูกใจกว่า : เพราะแต่ละทีมก็จะเชี่ยวชาญแต่ละอย่างต่างกันไปค่ะ เวลาเลือกแยกมา เราจะได้ทีมที่ดี แฮปปี้ และเป็นทีมที่เราชอบจริงๆ ด้วย
ถ้ามีเวลาให้ซ้อมแต่งหน้า : จะได้ไม่ต้องเซอร์ไพรส์ (ทางลบ) ในวันจริง ว่าอยากจะแก้ แต่เสียเวลา และทำให้เข้างานเลทกว่าที่ตั้งใจไว้ค่ะ