รัสติกโทนน้ำตาลแสนอบอุ่น @Parlour, CDC
งานของจี จะเป็นโทนสีอุ่นๆ ที่จัดล้อไปกับโทนของร้านค่ะ เราเลือกสถานที่แต่งงานที่ร้าน Parlour (พาร์เลอร์) @CDC ซึ่งเป็นแนวรัสติกอยู่แล้ว และด้วยความที่เราไม่ได้อยากให้มีพิธีรีตรอง อยากลบภาพเดิมๆ ของงานแต่ง ก็เลยเลือกธีม Lovely Warm Rustic แล้วทำให้เหมือนทุกคนมากินข้าวมื้อพิเศษกันมากกว่า
ตัวร้านเองรับแขกได้ประมาณ 80-120 คน โจทย์ของเราคือทุกคนต้องได้นั่งสบายๆ ดังนั้นก็เลยเรียกว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มสุดๆเลย
พร็อพเราหาพวกงานไม้สีอุ่นๆ มาแม็ตช์กับดอกไม้สีขาวเขียวให้ดูสดชื่น ตอนแรกกะจะทำเองหมด แต่จุดใหญ่ๆ เราเห็นแล้วว่าต้องใช้พร็อพเยอะมาก เลยหาออแกไนซ์ที่มีพร็อพคล้องกับงานของเราอยู่แล้วซะเลย เพราะเรามีเวลาเตรียมตัวแค่ 21 วัน ทุกอย่างต้องรวดเร็ว!
สามจุดใหญ่ๆ ที่ให้ทีมออแกไนซ์ทำให้คือแบ็คดรอป ตรงนี้จะเป็นแสตนดี้ม่านกั้น มีลูกเล่นพวกชั้นวางไม้ ขวดแก้ว เฟอร์นิเจอร์วินเทจๆ แล้วก็แซมยิปโซลงไป เพื่อให้ดูไม่แห้ง อีกจุดคือรีเซปชั่น เขาก็จัดที่วางของให้ มีโซนเขียนอวยพร เขียนกันบนกรอบรูปเลย ทำให้เป็นแบบมีสเปซพื้นที่สีขาวเยอะๆ จบงานแล้วก็เอามาใช้แต่งบ้าน
เสริมบรรยากาศให้ดูพิเศษ
สุดท้ายคือเวที ตรงส่วนพื้นเราไปขนกันมาเอง เพราะไม่อยากให้เป็นสเตจสองเมตรจริงจัง ก็เลยใช้ลัง แล้วด้านหลังตกแต่งด้วยเฟิร์น ริบบิ้นเส้นๆ เรียงตัวลงมา เพิ่มความน่ารักด้วย Dream Catcher อีกหน่อยนึง
ตรงเพดานทั่วร้าน เราเพิ่มธงราวกับไฟปิงปองเข้าไปด้วย จะได้ดูสว่าง แล้วก็เป็นวโรกาสพิเศษมากกว่าร้านอาหารทั่วไปขึ้นมาอีก
การ์ดแต่งงานเราทำเป็นไทม์ไลน์แบบมุ้งมิ้ง ซองก็ประดิษฐ์กันเอง เป็นงานแฮนด์เมด 100% แล้วด้วยความที่เวลากระชั้นชิดมาก แขกก็น้อย บางคนถ้าแจกไม่ทันก็มารับการ์ดกันหน้างานเลย (หัวเราะ)
ของชำร่วยเป็นมาการองที่ปริ้นสกรีนรูปเราสองคน ทานได้จริงๆ ซึ่งเราต้องทะนุถนอมหน่อย เพราะเป็นขนมที่บอบบาง ต้องเก็บรักษาดีๆ ไม่สามารถแสตนด์บายหรือซื้อมาล่วงหน้าได้สองวีค เป็นของที่ต้องคาดการณ์เวลา และถ้าจัดเอ้าท์ดอร์ก็อาจจะเยิ้มได้ง่าย ส่วนนี้ต้องปรึกษาร้านเลย
พวกดอกไม้ที่เราถือก็ไปหามาจาก Pinterest ไม่อยากให้ดูแมสมาก ก็ได้เป็นดอกหญ้าฟูๆ กับดอกไม้สีหวานๆ มาแม็ตช์กัน ให้ร้านเขาครีเอทให้เหมาะกับงาน
ชุดเจ้าสาวก็ไม่ได้เป็นสีขาวแบบทั่วไป โจทย์ของเราคือเอาไปใช้ต่อได้ ไม่ต้องฟู่ฟ่าเกิน ได้อารมณ์ดินเนอร์แต่มีอะไร สุดท้ายเลยออกมาเป็นสีแชมเปญออกน้ำตาล
แล้วด้วยความที่จีเองก็เป็นช่างแต่งหน้าเอง (@gee_makeup) เราก็อยากให้คนที่มาในงานสวย ดังนั้นเลยหาช่างมาให้เพื่อนเลย สามารถมาหน้าสดก่อนได้ไม่ว่ากัน (ขอแนะนำส่วนตัวนิดนึงว่าเจ้าสาวต้องทำใจนิ่งๆ สบายๆ จะได้สวยและมีความสุข ดื่มน้ำเยอะๆ ให้ผิวนุ่ม แล้วก็อย่ารนอย่าเครียด ไม่งั้นหน้าจะยิ่งหมองเอาได้)
เอาความรู้สึกของคนไปงานเป็นตัวตั้ง
อย่างแรกที่จีคิดคืออาหารในงานเราต้องอร่อย ที่นั่งสะดวกสบาย และแขกต้องรู้สึกดีที่ได้มา เราเลยเลือกจัดเซ็ตติ้งเอง ลักษณะอาหารจะเป็นโต๊ะจีนที่ปรับเป็น Sit-down dinner คือนั่งโต๊ะยาว แต่ก็มีการแชร์อาหารร่วมกัน เมนูเป็นฟิวชั่น ซึ่งทางร้านก็ประยุกต์เมนูให้สอดคล้องกับธีมของเราได้
พวกรันเนอร์ ดอกไม้แต่งโต๊ะ ลูกไม้ผูกช้อน การ์ดเมนูอาหาร ที่แต่งเก้าอี้ เราทำให้มันมีดีเทลหมด คนที่มางานจะได้รู้สึกว่าเขาได้รับการใส่ใจจริงๆ ค่ะ
พิธีเราสั้นมาก มีแค่แลกแหวน แล้วก็พูดคุยกันนิดหน่อย ส่วนโยนดอกไม้เราตัดออก เพราะพื้นที่จำกัด เลยปรับไปทำเซอร์ไพรส์ที่ดอกไม้ข้อมือเพื่อนเจ้าสาวแทน ให้พอเป็นสีสัน ข้างในนั้นจะมีสติกเกอร์อยู่ เขียนรูปหัวใจ ใครได้อันนั้นก็จะได้ดอกไม้ไป เรียกเสียงเฮฮาได้ดีเลย
จีว่าเหตุผลที่งานมันออกมาลงตัว เพราะงานของเราเป็นงานกลางๆ สเกลไม่ได้ใหญ่มาก แล้วเราก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แขกมีความสุข เพื่อนๆ ไม่ต้องอึดอัดเพราะไม่ได้พิธีการจ๋า ในขณะเดียวกันผู้ใหญ่ก็อิน เพราะเราไม่ได้ตามใจตัวเองมากเกินไปค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ระวังงบบานปลาย : เริ่มแรกเลยคือเราต้องรู้ตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่าเราต้องการอะไร ถ้าหาแพลนเนอร์ช่วยได้ก็จะดีมาก แต่ถ้าอยากอินกับทุกสิ่ง D.I.Y มีความสุขกับงานตัวเอง บางทีก็อาจจะต้องทำเอง แล้วก็ลำดับสิ่งที่ต้องทำ และต้องไม่ลืมว่าทุกสิ่งที่เป็นเวดดิ้งจะราคาแพง ให้ลองกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองเสมอๆ ว่าที่จริงแล้วเราอยากได้งานยังไง