พิธีไทยในธีมขาว @Oriental residence bangkok
ด้วยความที่ไนน์กับเจ้าบ่าวเราทำงานดีไซน์ด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นพอถึงตอนที่เราจะจัดงานแต่ง เราเลยพยายามหลีกรูปแบบเดิมๆ แล้วดีไซน์ทุกอย่างออกมาในแบบที่เราชอบและเป็นตัวเราจริงๆ ค่ะ เราเลือกสถานที่แต่งงานที่ Oriental residence bangkok (โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ) เพราะภาพรวมดูเหมาะสม เข้ากับธีมงานของเรา
ประกอบกับตัวไนน์และปอนด์เองก็ทำแบรนด์เครื่องประดับ (GoodAfterNine) อยู่แล้ว โทนของแบรนด์ก็จะดูขาวๆ สะอาดๆ เราที่เป็นเจ้าสาวไม่หวงสีขาว อยากให้ทุกคนใส่สีขาวมาในงาน ก็เลยคิดว่างั้นเอาสีขาวเป็นหลักเลยแล้วกัน แล้วไปเน้นสีสันจากดอกไม้ในขันหมากอีกที
รายละเอียดต่างๆ ทุกอย่างในงานเราดีไซน์กันเองหมด เริ่มจากโลโก้ฝีมือเจ้าบ่าวที่เป็นThai Calligraphy มีทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น
ของชำร่วยก็เป็นพินปักเสื้อ ทำแฮนด์เมดแบบชิ้นต่อชิ้น ใส่ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ผลิตโดยแบรนด์ของไนน์และปอนด์เอง นอกจากนี้เรายังมีวิดีโอที่ปล่อยก่อนจะถึงวันงาน บอกเล่าถึงขั้นตอนในการทำของชำร่วย
เนื่องจากใช้คำว่าก้าวหน้า จึงเป็นเสมือนการส่งมอบคำอวยพรให้กับแขกที่มาร่วมงาน และมาคล้องกับตัวเราและคำว่าเก้าพอดี
(ชมวิดีโอ : https://www.youtube.com/watch?v=ng3adqG6nOA)
ในส่วนของชุดเจ้าสาว ไนน์ก็ทำเองอีกเช่นกัน ทั้งออกแบบและตัดเอง โดยใช้ช่างของเพื่อนที่มีฝีมือ แต่ด้วยความที่ไม่ได้มาสายนี้โดยตรง เพราะมุ่งไปแต่สายเครื่องประดับ ก็เลยต้องปรับกันจนวินาทีสุดท้าย (หัวเราะ) ดีเทลเล็กๆ อย่างชายผ้าตรงข้อมือ เราก็เสริมกระจกรูปข้าวหลามตัดปักลงไป ทำให้ชุดขาวๆ ดูมีกิมมิคขึ้นมา
เติมเต็มด้วยตัวตน
สำหรับงานเช้า ด้วยความที่แขกส่วนมากเป็นญาติผู้ใหญ่ งานนี้คุณแม่เลยเสนอให้นำโปรดักส์ที่ทำอยู่มาวางไว้ด้วย ญาติๆ จะได้อัพเดทไปในตัวว่าเรากำลังอะไร
ส่วนการเซ็นอวยพร เราก็ปรับจากวิธีเดิมๆ มาถ่ายโพลารอยด์แล้วแปะลงกระดาษ นอกจากจะสะดวกเพราะเขียนแยกของใครของมันแล้ว ยังอ่านสะดวก นึกภาพออกว่าใครเป็นคนเขียนให้เราด้วยค่ะ
ช่วงที่เพื่อนๆ สนุกกันมากที่สุดในช่วงพิธีการ ก็น่าจะเป็นช่วงแห่ขันหมาก เพราะเจ้าบ่าวเป็นคนใต้ ดังนั้นเลยโดนแกล้ง มีทั้งบอกรักภาษาใต้ แร็พสำเนียงใต้ แล้วก็มีพูดภาษาอังกฤษสำเนียงใต้ด้วย (หัวเราะ)
ไม่ต้องเหมือนใคร ออกแบบได้ เป็นตัวเอง
ช่วงสวมแหวน เราใช้แหวนหมั้นที่ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ เป็นแหวนหมั้น หมาของเรา ซีโร่และวันทูเหมือนตัวจริงที่เราเลี้ยง และที่สำคัญงานนี้บ่าวสาวไม่ได้นั่งพื้น เพราะเราประยุกต์ไปนั่งเก้าอี้ ทำให้ได้ลุคสบายๆ และไม่เมื่อย คุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่ถือ ถ่ายรูปชัดดี แขกที่นั่งด้านหลังก็ยังเห็นเรา
ช่วงรดน้ำสังข์เราออกแบบดอกไม้โดยใช้สีโทนร้อน และเลือกใช้ถ้วยแก้วในการรองรดน้ำ เน้นให้ดูเป็นสไตล์มินิมอลแต่ก็ยังมีสีสันอยู่ ไม่เรียบมากซะทีเดียวค่ะ
สวยสุดๆ กับดีไซน์ที่หยุดทุกสายตา
สำหรับงานเย็น เราเลือกใช้สถานที่ที่ Quaint Bangkok ซึ่งเป็นร้านอาหาร แต่เนื่องจากเราจัดกันบนชั้นสอง และร้านเองก็ยังไม่มีป้ายชื่อร้านที่ชัดเจน กลัวเพื่อนๆ จะหลงกัน เราเลยตั้งโลโก้ชื่อไทยไว้ให้เห็นด้านหน้าชัดๆ เลย
ด้วยความที่ตัวสถานที่สวยมากอยู่แล้ว งานนี้เราเลยเสริมการตกแต่ง ด้วยการนำกระดาษพับทรงเรขาคณิตไปห้อย โรยลงตัวมาจากเพดาน แล้วใช้จุดนี้เป็นมุมถ่ายรูปแทนแบ็คดรอปไปเลย ถ้าสังเกตดีๆ จุดนี้ก็จะเห็นรูปหมาซีโร่ และวันทู ตรงโลโก้ด้วย อยากใส่เขาเข้าไปในทุกๆ จุดเลย เพราะว่ารักมากๆ
สำหรับลำดับงาน พอแขกมาถึงแล้วก็จะเริ่มจากการติดเข็มกลัดก่อนค่ะ หลังจากนั้นก็จะมีถ่ายรูปสามช็อตแล้วนำมาเขียนอวยพร แล้วก็ไปชมพรีเซนเทชั่น ซึ่งเป็นเหมือนเอ็มวีไม่มีบทพูด เป็นการนำเอาชีวิตประจำวันของเราสองคนจริงๆ มาใช้โดยมีเลข 9 มาเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเราจริงๆ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสื่อถึงคอนเซ็ปต์เดียวกัน เชื่อมโยงกันหมดแม้แต่วันงานที่เป็นวันที่ 9 เดือน 9 เลย
นอกจากนี้ ในพรีเซนเทชั่นยังเล่าถึงขั้นตอนการออกแบบแหวนหมั้น และความสัมพันธ์ผ่านมุมมองดีไซน์ ‘ชีวิตคือการดีไซน์ ดีไซน์ทำให้เราเรียนรู้ซึ่งกันและกัน’ ตอนจบเป็นแหวนหมั้นที่เจ้าบ่าวทำเซอร์ไพรส์ไนน์ เป็นแหวนเลข 9 ที่ให้มาก่อนวันแต่งงาน
จบจากการชมพรีเซนเทชั่นก็จะเป็นการเปิดตัวด้วยการจูงน้องหมาซีโร่ และวันทู (ตัวเดียวกันกับในแหวน) มีเฟิร์สแดนซ์สนุกๆ แล้วก็สัมภาษณ์ พูดคุยเล็กน้อย โดยเชิญคุณพ่อคุณแม่ออกมาพูด ส่วนช่วงโยนดอกไม้ก็โยนให้เลยถึงสามช่อ เพราะงานนี้ช่อเดียวไม่พอชัวร์ค่ะ (หัวเราะ)
แนะนำบ่าวสาว
เลือกสถานที่ให้ได้ก่อน : อย่างของไนน์มีเวลาเตรียมตัวน้อย รู้ตัวอีกทีเหลือเวลาสองเดือนแล้วค่ะ (หัวเราะ) เรื่องสถานที่เลยเป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ เพราะเราไม่มีออแกไนซ์ และสิ่งนี้จะทำให้เราวางแผนงานต่อได้ ถ้าตกลงสถานที่ได้แล้วก็จะสามารถมาร์คจุด นึกภาพรวมทั้งหมดของงานออก ขันหมากจะอยู่ตรงไหน ไลน์อาหารจะยังไง ทำงานง่ายขึ้นอีกเยอะเลย